การรู้สึกตัวที่แท้จริง: ปฏิบัติธรรมด้วยความตั้งใจและความเพียร

โยม: รู้สึกว่ามันค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าค่ะ

หลวงพ่อดา: ดีขึ้นยังไง 

โยม: ดีขึ้นก็คือ มันมีสติอยู่กับตัวมากขึ้น

หลวงพ่อดา: เดินก็ไม่ขี้เกียจนะ ขยัน Focus ตัวเองเท่านั้น

โยม: ขี้เกียจบ้าง ง่วงบ้างเจ้าค่ะ ยังมีอยู่แต่ว่ามันน้อยลง เวลาที่เราเดินหรือเวลายกมือเนี่ย เราดูความเคลื่อนไหวใช่มั้ยเจ้าคะ แล้วก็ถ้ามีความคิด ก็ให้รู้สึกตัวว่าคิด แล้วก็ไปเคลื่อนไหวต่อเลย

หลวงพ่อดา: มันก็อย่างนั้นแหละ

โยม: อ๋อ เจ้าค่ะ โยมมีข้อสงสัยว่าเวลาที่ปฏิบัติได้ดี อย่างเมื่อเช้าปฏิบัติได้ดีมาก พอไปนั่งมีความรู้สึกว่า อุ๊ย ไม่อยากยุ่งกับใคร อยากปฏิบัติ อยากให้สมาธิอยู่กับตัวอย่างเดียว ปกติจะนั่งอยู่ข้างหน้าตรงนี้ ก็ถอยไปข้างหลังสุด เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเห็นใคร อย่างนี้มันเป็นความปกติ หรือมันเป็นความอยากของตัวเองเจ้าคะ

หลวงพ่อดา: เป็นความคิดที่ดี ทุกคนอยากอยู่สบาย อยากอยู่อย่างอิสระ อยากรู้จักตัวเองมากๆ ไม่อยากให้คนมายุ่ง เป็นความคิดแค่นั้นแหละ เป็นความคิดที่ดี แต่ทุกคนต้องมีเพื่อนฝูง มีหมู่คณะ ให้เข้าป่า จะคิดถึงเพื่อน อยากให้เพื่อนมาด้วย อยู่คนเดียวก็เปล่าเปลี่ยวเดียวดาย อยู่หลายคนก็บอกว่าอย่ามายุ่งกับฉันนะ ฉันชอบอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวในถ้ำ คิดถึงเพื่อน หลวงพ่อคิดถึงเพื่อนนะ เอาพระเณรมาสักรูปสองรูป มาช่วยกันหน่อยก็ดีนะ อยู่คนเดียวก็เหมือนอยู่กับเพื่อน

โยม: แต่นานๆ ที เพิ่งจะเป็น 

หลวงพ่อดา: มันเป็นความคิด รู้ว่ามันคิดดี

โยม: รู้ว่าเป็นความคิด แล้วก็ปฏิบัติต่อไป

หลวงพ่อดา: แค่นั้นเอง เดี๋ยวมันก็คิดเรื่องอื่นมาอีกแหละ

โยม: แสดงว่าโยมคิดเยอะ นั่งๆ ปฏิบัติ ก็ได้ยินเสียงคนคุยโทรศัพท์ ซึ่งเสียงเขาเบามาก เสียงรถไฟดังกว่าตั้งเยอะ แต่ไปหงุดหงิดกับเสียงเขา กว่าจะรู้สึกตัวว่า เอ๊ย เราไปโฟกัสกับมันใช่มั้ยเจ้าคะ ทั้งๆ ที่มันนิดหน่อยเอง

หลวงพ่อดา: มีหลวงพี่องค์หนึ่ง แกนอนด้วยกันนั่นแหละ แต่ว่านาฬิกาดังแจ๊กๆ น่ะ แกนอนไม่หลับ แกไปกดนาฬิกาลง เอาถ่านมันออก มันโฟกัสไปผิดๆ มันกระตุกหัวใจเขา แจ๊กๆ มันกระเทือนน่ะ มันนอนไม่หลับ

โยม: ขนาดรถไฟดังๆ ทำไมเราไม่สนใจกับมัน แต่สนใจเสียงกระซิบๆ 

หลวงพ่อดา: รู้ตามเป็นจริง รู้บ้างไม่รู้บ้าง ก็ดี

โยม: หลวงพ่อเจ้าขา มีอันหนึ่งที่โยมสงสัย เวลาโยมปฏิบัติไป โยมก็ไปเห็นเวลาเขาคุยกัน เขาก็ยกมือไปด้วย  อย่างนั้นก็คือไม่ได้

หลวงพ่อดา: มันไม่ถูกนะ เวลาฟังก็อย่าไปยกมือเลย เวลายกมือก็อย่าคุยกันเลย ถ้าคุยกันก็ตั้งใจคุยกันดีๆ ดีกว่า จะไม่เสียนิสัย จะไม่เสียภาพพจน์ มีเยอะนะ เดินจงกรมคุยกันเฉยเลย โอ๊ย หลวงพ่อเทียนสอนดีนะ เดินจงกรมรู้สึกตัวดี เดินจงกรมด้วยกันกลับไปกลับมา สร้างจังหวะ คุยกันเฉยเลย ไม่มีในตำรา ไม่มีในคำสอนหลวงพ่อเทียนนะ ตั้งใจจริงๆ ตั้งใจพูด ตั้งใจฟัง ตั้งใจคุย คุยกันให้จบก่อนแล้ว มาทำอันนี้ ทำไปด้วยคุยไปด้วย สนุกกันเลย ไม่รู้ตัวเลย

โยม: บางทีก็รู้สึกว่า เป็นการรักษาภาพว่าฉันกำลังปฏิบัติ ให้เห็นว่าฉันกำลังปฏิบัติอยู่ รู้ตัวนะ

หลวงพ่อดา: เป็นการโชว์ ฉันกำลังปฏิบัตินะ รู้ตัวนะ แต่ถ้าถามหลวงพ่อเทียนว่า เอามั้ยอย่างนั้นน่ะ ไม่ได้ๆ อย่าไปทำ เดินจงกรมไป สร้างจังหวะไป อย่างนี้ไม่ต้องทำ มันจะละเมอไป แล้วบางคนไหลไปเลย เข้าไปในนิมิตเลย  ดีแล้วๆ เราเรียนรู้ เรียนรู้อะไรไม่ดีเราก็ทิ้ง ถ้าครูบอกให้ อะไรนะหัวล้านเกินครู  หัวล้านนิดหนึ่ง ผมล้านนิดหนึ่ง มีคาถาดีมีน้ำมนต์ดีมาใส่ เขาก็บอกให้ใส่ ๓ ทีนะ โอ้ยเยอะเลยนะ ผมขึ้นมาเยอะเลยนะ เอาอีกทีสิ ครั้งที่ ๔ เลยนะ หมดเลย ไอ้ที่มีอยู่หายไปด้วย ที่มีอยู่หายไปด้วยเลย มันเกิน ๓ ครั้งที่ ๔ ไม่ใช่หล่ะ หมดเลย นี่ก็เหมือนกัน สร้างจังหวะให้รู้สึก สร้างจังหวะแล้วไม่คุยกัน

หลวงพ่อดา สมฺมาคโต

วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *