รู้สึกกาย รู้สึกใจ 1 กรกฎาคม 2023

“นิพพาน คืออะไร ?

ว่าโดยย่อ **‘นิพพาน’หมายถึงความพยศหมดไป

หรือความมีมานะ-ทิฏฐิหมดไป

หรือความมีโทสะ-โมหะ-โลภะหมดไป

หรืออีกคำหนึ่งว่า กิเลส-ตัณหา-อุปาทานหมดไป

มีแต่ความเป็นปกติ หรือว่าว่าง นี่แหละคือนิพพาน

สรุป ‘นิพพาน’…แปลว่าหมดความร้อน มีแต่ความเย็นอก-เย็นใจ**

ไม่ใช่อื่นไกล

**นิพพานมีอยู่ในคนทุกคน ไม่ยกเว้น**

จะเป็นผู้หญิงก็มีนิพพาน จะเป็นผู้ชายก็มีนิพพาน

จะเป็นพระสงฆ์-องค์เณรก็มีนิพพาน

คนไทย คนจีน คนฝรั่งเศส คนอังกฤษ คนอเมริกัน

คนเขมร คนญวน คนลาว ก็มีนิพพานเช่นเดียวกัน

จะถือศาสนาไหน-ลัทธิอะไรก็ตาม มีนิพพานเช่นเดียวกัน

**‘นิพพาน’ คือความร้อนดับ-หมดไป มีแต่ความเย็นอก-เย็นใจ**

คนโบราณจึงพูดว่า

‘สวรรค์อยู่ในอก-นรกอยู่ในใจ-พระนิพพานอยู่ที่ใจ’

*เพียงแต่ว่า คน ๆ นั้นแหละ

จะทำให้มรรคผลนิพพานปรากฏเกิดขึ้นหรือไม่เท่านั้นเอง*

ปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้ถึงซึ่งกระแสพระนิพพาน ?

*ตามที่หลวงพ่อปฏิบัติอยู่ อาจจะไม่เหมือนกับที่คนอื่นพูดมา

สำหรับหลวงพ่อเอง

เคยให้ทาน-รักษาศีล-ทำกัมมัฏฐานมาพอสมควร

แต่ไม่รู้ว่านิพพานอยู่ที่ไหน ?

ไม่รู้ เพราะไม่ได้ปฏิบัติอย่างนี้*

**การปฏิบัติอย่างนี้

หมายถึง ปฏิบัติให้มีสติอยู่กับการเคลื่อนไหวในทุกอิริยาบถ

แม้จะยกมือ-ยกเท้า ก็ให้มีสติรู้

ที่หลวงพ่อทำอยู่เป็นประจำ หลวงพ่อสร้างจังหวะขึ้นเพื่อปฏิบัติ

คือ พลิกมือขึ้น-ให้รู้สึก คว่ำมือลง-ให้รู้สึก

ยกมือไป-ให้รู้สึก เอามือมา-ให้รู้สึก

และอิริยาบถในชีวิตประจำวัน

เช่น เอียงซ้าย-เอียงขวา…ให้รู้สึก

กะพริบตา-ให้รู้สึก ตาเหลือบซ้าย-แลขวา…ให้รู้สึก

หายใจเข้า-หายใจออก…ให้รู้สึก

ให้มีสติติดตามความรู้สึกนี่เอง

จิตใจมันนึก-มันคิด ให้รู้สึก

เมื่อรู้สึกแล้ว ไม่ต้องยึดถือ-ปล่อยวางไป

ทำอย่างนี้แหละ**

ความรู้สึกนั้น ท่านว่า‘สัญญา’-คือความหมายรู้จำได้

เมื่อมีสัญญา-ความหมายรู้จำได้ ญาณก็เข้าไปรู้

‘ญาณ’ แปลว่าเข้าไปรู้

เมื่อญาณเข้าไปรู้แล้ว ปัญญาก็รอบรู้

ทั้ง ๓ อย่างนั่นแหละประกอบกันเข้าเรียกว่า‘ญาณของวิปัสสนา’

**เมื่อทำความรู้สึกอยู่ทุกอิริยาบถ

ญาณของวิปัสสนาก็เกิดขึ้นแก่ผู้กระทำเช่นนั้น

เมื่อญาณของวิปัสสนาเกิดขึ้นแล้ว

ก็เห็นแจ้ง-รู้จริงตามความเป็นจริง

เพราะศึกษาอยู่กับธรรมชาติ

ศึกษาอย่างนี้แหละ จึงจะได้กระแสพระนิพพาน**

ทำไมจึงว่าได้กระแสพระนิพพาน ? บางคนอาจจะสงสัย

ก็เพราะรู้รูป-รู้นาม รู้รูปทำ-รู้นามทำ รู้รูปโรค-รู้นามโรค

รู้ทุกขัง-รู้อนิจจัง-รู้อนัตตา

รู้สมมติ สมมติอะไร…รู้ให้ครบ ให้จบ-ให้ถ้วน

แล้วก็รู้ศาสนา-รู้พุทธศาสนา รู้บาป-รู้บุญ

**รู้ได้จริง ๆ ถ้าทำอย่างนี้

ไม่ยกเว้นใครเลย ใครทำก็รู้ทั้งนั้น

ทำเมื่อไหร่ก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ทำได้

อย่างนี้เรียกว่า‘ได้ดวงตาเห็นธรรม’

เพราะเห็นตัวเรากำลังนึก-กำลังคิด กำลังพูด-กำลังทำ

นี่เรียกว่า‘เห็นธรรม’

เห็นอย่างนี้เห็นธรรมแท้ ๆ ไม่แปรผัน**…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *