“…ที่อาตมานำมาชี้แจง หรือนำมาแนะแนว
**วิธีปฏิบัติให้นี้ อันนี้-แบบนี้ปฏิบัติง่าย ๆ
ปฏิบัติแบบพระพุทธเจ้าจริง ๆ**
เรื่องนี้ เมื่อพูดถึงการปฏิบัติของพระพุทธเจ้าจริง ๆ
คนอื่นนั้นทำพุท-โธ หรืออรหัง พอง-ยุบ
นับ ๑-๒-๓ นั้นถูกไหม เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าไหม ?
อันนั้นไม่ต้องไปสนใจมัน
ใครจะพูดอย่างไรก็ตาม ไม่ต้องไปสนใจมัน
เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ตาม
ไม่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ตาม
แต่อาตมาไม่ได้เอามาพูดเรื่องนั้น
เพราะเราทุกคนต้องการความจริง
**อะไรก็ตาม ถ้าหากว่ามันทำลายความหลงผิดได้
อันนั้นแหละถูกต้อง
ที่อาตมาพูดนี้ อาตมารับรองได้-รับรองได้จริง ๆ
ทำไมว่ารับรองได้ ?
เพราะอาตมา แต่ก่อนก็เคยโกรธเหมือนกัน
เมื่ออาตมาทำอย่างนี้ อาตมา-ความโกรธมันไม่ได้มี
เพราะอาตมาเห็นความโกรธไม่มี**
อย่างที่ญาติโยมและท่านทั้งหลายนั่งฟังอาตมาพูดนี้
ในขณะนี้อาตมาเข้าใจว่า **ทุกคนไม่มีโกรธใช่ไหมเดี๋ยวนี้
ในขณะนี้ไม่มีโกรธใช่ไหม ?**
*เมื่อไม่มีความโกรธ เราจะไปหาความโกรธทำไม ?
เพราะโกรธมันไม่ได้มีอยู่แล้วนี่
บัดนี้อาจารย์ทั่วไป สอนให้เราไปละความโกรธ
แล้วไปหาความโกรธ มันไปหาของไม่มี-มันก็ไม่เห็น
เมื่อมันไม่เห็น เราก็ไปว่า
‘ทำบุญ-ให้ทาน-รักษาศีลไปก่อน ให้เป็นอุปนิสัย
เป็นปัจจัยต่อหลังจากการตายแล้ว’
อันนั้นแปลว่าคนไม่รู้จริง คนคาดคิด-ดลเดาเอาเอง
แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างนั้น*
*อดีตที่ผ่านไปแล้ว มันจะทำอะไรให้เราไม่ได้*
**มันจะทำให้เราได้ตั้งแต่ขณะนี้ ในปัจจุบันนี้เอง
พระพุทธเจ้าจึงสอนเรื่องปัจจุบันเท่านั้น**
*เรื่องอดีต-อนาคตนั้น มันไม่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่เราไปเข้าใจว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
ใครพูดอยู่ที่ไหน ก็หาว่า‘พระพุทธเจ้าแสดง
สอนอย่างนั้น-อย่างนี้’ อันนั้นเป็นการเราคาดคิดเอา
เราไม่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง*
**ที่อาตมาพูดนี้ อาตมารับรอง
รับรองคำสอนของพระพุทธเจ้า
และรับรองวิธีที่อาตมาพูดนี้ รับรองจริง ๆ
ถ้าพวกท่านทำจริง ๆ แล้ว
ทำให้มันติดต่อกันเหมือนลูกโซ่
หรือเหมือนนาฬิกาที่มันหมุนอยู่ตลอดเวลา
แต่ไม่ใช่ว่าทำอย่างนี้ให้มันเหมือนลูกโซ่
หมุนอยู่เหมือนกับนาฬิกานี่
ไม่ให้ไปทำการ-ทำงานอื่นใดทั้งหมด
ให้ทำความรู้สึก**
ทำจังหวะ-เดินจงกรมอยู่อย่างนี้ตลอดเวลาหรือ ?
ไม่ใช่อย่างนั้น
**คำว่า‘ให้ทำอยู่ตลอดเวลา’นั้น
เราทำความรู้สึก(กับการ)ซักผ้า-ซักเสื้อ ถูบ้าน-กวาดบ้าน
ล้างถ้วย-ล้างจาน เขียนหนังสือ หรือซื้อ-ขายก็ได้
เพียงเรามีความรู้สึกเท่านั้นเอง
แต่ความรู้สึกอันนี้แหละ มันจะสะสมเอาไว้ทีละเล็ก-ทีละน้อย
เหมือนกับเราที่มีขันหรือมีโอ่งน้ำ
หรือมีอะไรก็ตามที่มันดี ที่รับรับมันดี
ฝนตกลงมา ตกทีละนิด-ทีละนิด
เม็ดฝนเม็ดน้อย ๆ ตกลงนาน ๆ
แต่มันเก็บได้ดี น้ำก็เลยเต็มโอ่ง-เต็มขันขึ้นมา**
อันนี้ก็เหมือนกัน **เราทำความรู้สึก
ยกเท้าไป-ยกเท้ามา ยกมือไป-ยกมือมา
เรานอน…กำมือ-เหยียดมือ ทำอยู่อย่างนั้น
หลับแล้วก็แล้วไป เมื่อนอนตื่นขึ้นมา-เราก็ทำไป
หลับแล้ว-ก็แล้วไป ท่านสอนอย่างนี้
เรียกว่า‘ทำบ่อย ๆ’ อันนี้เรียกว่า‘เป็นการเจริญสติ’**”
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
————————————————————————————————
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※
※ ※
※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※
※ ※
※ อย่าหลงชีวิต ※
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ
_/|\_ _/|\_ _/|\_

ใส่ความเห็น