รู้สึกกาย รู้สึกใจ 3 มีนาคม 2521

“…*เมื่อเรามาเจริญสติ-เจริญปัญญา

ก็จะรู้สมมติบัญญัติ ปรมัตถบัญญัติ

อรรถบัญญัติ และอริยบัญญัติ

แล้วมีญาณปัญญาเกิดขึ้น*

ปัญญานี้ไม่ใช่ปัญญาหาเงิน-หาทอง

ไม่ใช่ปัญญาเรียนเก่ง-พูดเก่ง

นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง

*เมื่อญาณเกิดขึ้นแล้ว มันก็จะไหลไปหรือก้าวขึ้นไป

ญาณมันจะไหลไป-ไหลไป ก้าวขึ้นไป-ก้าวขึ้นไป

ตามลำดับชั้นของมัน*

เหมือนกับน้ำในห้วยเล็ก-ห้วยน้อย ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง

แล้วก็จะไหลออกไปสู่ทะเล

ขั้นของอริยบัญญัติ คือ

โสดาบัน-สกิทาคามี-อนาคามี และอรหันต์ ตามลำดับ

ซึ่งสิ่งนี้ก็ถูกสมมติเรียกขึ้นมา แต่ก็ไม่ใช่ของสมมติ

เราเพียงสมมติเรียก

แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เป็นอยู่จริงในคน ๆ นั้น

คำว่า‘นิพพาน’

ก็ถูกสมมติขึ้นมาเรียกสภาพที่เป็นจริง

และมีอยู่แล้วในคนทุกคน

ฉะนั้น *นิพพานจึงเป็นสมบัติของมนุษย์*

คนธรรมดาอาจจะรู้ก็ได้-ไม่รู้ก็ได้

เราจะเอาอะไรมาวัดความเป็นมนุษย์

ไม่ใช่บวชนาน ๆ หรือเรียนสูง ๆ

นั่นไม่ใช่เครื่องวัดความเป็นมนุษย์

นั่นเป็นเพียงเครื่องมือทำมาหากินของคนฉลาดในโลก

โลกนี้ก็ถูกสมมติขึ้นมาอีกเหมือนกัน

*สำหรับคนที่รู้แล้ว เขาก็อยู่ในโลกสมมติอันนี้ได้

แต่เขาไม่ติดสมมติใด ๆ ในโลกนี้ทั้งหมดเลย

ดุจดอกบัว แม้เกิดในโคลนตม

แต่เมื่อพ้นน้ำขึ้นมาแล้ว ไม่มีกลิ่นโคลนตมอยู่อีก*

อย่างผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน

ก็คนธรรมดานี่เอง แต่เราสมมติขึ้นมา

ครูโรงเรียน ตำรวจ-ทหาร…ก็สมมติขึ้นมา

อย่างโลหะ

เราก็เอามาสมมติเป็นเหรียญ ๑ บาท เหรียญ ๕ บาท

หรือ ธนบัตรใบละ ๑๐ บาท ใบละ ๒๐ บาท

ใบละ ๑๐ บาท ใบละ ๕๐๐ บาท

ก็คือกระดาษนี่เอง

หรือทองคำ มันก็เป็นโลหะชนิดหนึ่ง

เรามาสมมติให้มันมีค่าเท่านั้น-เท่านี้

แต่มันก็เป็นของจริง จริงโดยสมมติ

*ให้เรารู้จักสมมติจริง ๆ และอยู่กับสมมติได้

ถ้าเราไม่รู้จักสมมติจริง ๆ แล้ว เราจะไปติดมัน*

ผี-เทวดา นรก-สวรรค์ นิพพาน

นี่ก็เป็นเรื่องสมมติทั้งสิ้น

แต่ก็เป็นจริงโดยสมมติ…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *