“…พระพุทธเจ้าท่านสอน
‘ให้เรามีสติ เจริญสติให้เป็นสติปัฏฐาน ๔ คือ
◎ กายานุปัสสนา-ให้มีสติเข้าไปดูกายในกาย
◎ เวทนานุปัสสนา-ให้มีสติเข้าไปดูเวทนาในเวทนา
◎ จิตตานุปัสสนา-ให้มีสติเข้าไปดูจิตในจิต
◎ ธรรมานุปัสสนา-ให้มีสติเข้าไปดูธรรมในธรรม’
‘ธรรมในธรรม’ นั้นเป็นอย่างไร ?
บางคนว่า ‘ต้องเห็นแสง-สี ผี-เทวดา
หรือลูกแก้วลอยเข้ามาหาเรา’
และว่านั้นเป็นธรรมะ
อันนั้นก็จริงอยู่ หลวงพ่อไม่ได้ปฏิเสธ
แต่ก็ถือว่าบุคคลนั้นไม่ได้เห็นจิต-เห็นใจตนเอง
ไม่เห็นการทำ-การพูด-การคิดของตัวเอง
*‘เห็นธรรม’ ต้องเห็นกำลังทำ
ทำการทำงาน-กำลังพูดกำลังคุย-กำลังคิด
นี่แหละธรรมะ มีอยู่ในคนทุกคน-ไม่ยกเว้น
จะเป็นคนไทย-คนจีน-คนฝรั่ง-คนอังกฤษ มีเหมือนกันหมด*
ต่างกันแต่ภาษาพูดเท่านั้น
นอกจากนี้ ท่านยังสอน
‘ให้มีสติกำหนดรู้ในอิริยาบถทั้ง ๔ คือ
ยืน-เดิน-นั่ง-นอน ให้มีสติเข้าไปกำหนดรู้’
เพื่ออะไร ?
เพื่อให้เรารู้ต้นเหต-ุสมุฏฐานของทุกข์
แต่สอนถึงขนาดนั้นแล้ว
บางคนผู้ไม่มีปัญญาดี ก็ยังต้องสอนย้ำเข้าไปอีกว่า
*‘ให้มีสติเข้าไปกำหนดรู้ในอิริยาบถย่อย’
เช่น คู้-เหยียด เคลื่อนไหว กะพริบตา หายใจ นึกคิด
การกะพริบตา-หายใจ-เคลื่อนไหวนี้ คน(อื่น)มองเห็นได้
ส่วนความคิดนั้น คน(อื่น)มองไม่เห็น
*น้อยคนที่สุดจะมองเห็นความคิดตัวเอง*
การศึกษาธรรมะนั้น พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า‘ไม่มีใครทำให้’
*ท่านตรัสรู้ ก็เพราะการกระทำทางจิต-ทางใจ
เราได้ทำแล้วหรือยัง ? ทำอย่างไร-ทำวิธีใด ?*
อย่างหลวงพ่อเอง
ตั้งแต่ออกจากท้องแม่มา ไม่เคยรู้จักความคิดของตัวเอง
มันเกิดขึ้นขณะใด-เวลาใด และโดยวิธีใด ?
ไม่เคยรู้จัก
นอนกลางคืน ฝันจนเป็นเรื่องเป็นราว-จึงจะรู้ว่าฝันไป
แสดงว่าเรายังไม่เข้าใจหลักพุทธศาสนา
ทำบุญ-ให้ทาน รักษาศีล-ทำกรรมฐาน
ทั้งหมด(นี้หลวงพ่อ)ทำมาแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักเรื่องศีล
นี่แสดงว่ายังไม่ได้ทานธรรม ยังไม่ได้บูชาพระพุทธเจ้า
จนอายุ ๔๖ ปี *ได้มาฝึกตัวเอง
คอยดูการเคลื่อนไหวของตัวเองตลอดเวลา
เกิดรู้-เห็นความคิด
มันเกิดขึ้นมาปุ๊บ-เห็นปั๊บ* เหมือนแมวกับหนู
พอหนูออกมา แมวไม่เคยกลัวหนู
(แมว)มันกระโดดจับ(หนู)ทันที
หนูมันตกใจช็อกตาย แมวกินหนูจึงไม่มีเลือด
เข้าใจว่าหนูมันตกใจสุดขีด เลือดมันอาจจะแข็งตัวทันที
ฉะนั้น ความคิดของเราก็เหมือนกัน
**เมื่อเรามีสติ-มีสมาธิ-มีปัญญา
คอยคุมกาย-วาจา-ใจของเราอยู่
มันคิดขึ้นมา ก็ต้องรู้-ต้องเห็น-ต้องเข้าใจ
คนอื่นนั้นจะรู้-จะเห็น-จะเข้าใจแทนเราไม่ได้
สิ่งนี้จึงหยิบยื่นให้กันหรือไม่ให้กัน-ไม่ได้**
เราเองเข้าใจว่าเราเป็นชาวพุทธ
เป็นญาติธรรมของพระพุทธเจ้า หรือเป็นสาวก
*ถ้าหากเราไม่เข้าใจการกระทำของเราแล้ว
มันก็ไกลกันกับที่เราพูด เราบอก-เราสอนกันอยู่ทุกวันนี้*…”
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
————————————————————————————————
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※
※ ※
※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※
※ ※
※ อย่าหลงชีวิต ※
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ
_/|\_ _/|\_ _/|\_

ใส่ความเห็น