รู้สึกกาย รู้สึกใจ 29 มกราคม 2021

“…อันพระพุทธเจ้านั้น ‘ถึงที่สุดแล้ว-ญาณย่อมมี’-ว่าซั่น

ถึงบ่อนเฮาฮู้จัก-ก็บ่ถึงตัวความคิดเฮานี่แล้ว มันขาดช่วงออกจากกันแท้ ๆ นี่นะ

บ่เฉพาะแต่ความคิดเด๊ ทุกประเภท-มันขาดออกจากกันแท้ ๆ

พระพุทธเจ้าท่านสอนจังซั่น ‘เมื่อถึงที่สุดแล้ว-ญาณย่อมมี’

เพิ่นว่าจังซั่นเด๊ พระพุทธเจ้าว่า

ญาพ่อยังว่าอุปมาให้ฟัง เอาเชือกไนล่อนผูกใส่ต้นนี้ส้นหนึ่ง

ผูกใส่ต้น(นั้น)เสาหนึ่ง ตัดตรงกลางแล้ว-มันดึงบ่ถึงกัน

*ความขาดออกจากกันนี่แหละ เพิ่นว่า‘เห็นแจ้ง-รู้จริง’

‘มันบ่แม่นถูกปรุงแต่ง’* เพิ่นว่าจังซั่น

แม่นสามี-ภรรยาก็เช่นเดียวกัน ลูก-หลานบ้าน

ให้ว่าทุกคนแหละ-ให้ว่าเถอะไป๊ มันสิเป็นจังซั่น

*ถ้าหากเราบ่เป็นในขณะนี้นี่แหละ จวนจะตายนี่แหละ-ต้องแน่นอนที่สุด*

เพิ่นว่าแล้ว-พระพุทธเจ้าว่าแล้ว

หรือว่าพ่อ-แม่ ปู่-ย่า ตา-ยายว่า ก็บ่ฮู้จักล่ะ

เพิ่นว่า*‘คนใดมีกิเลส-ตายแล้วต้องเกิด’ ว่าซั่น

เพิ่นว่า‘คนบ่มีกิเลส-ตายแล้วบ่เกิด’

‘เพราะมันถึงกันนั่นแหละ…มันจะโกรธ มันจะฮัก-จะชัง’ เพิ่นว่าจังซั่น

‘ถ้าตัดให้ขาดลงไปแล้ว-เห็นไปแล้ว มันก็แล้ว-มันเท่านั้นล่ะ’* เพิ่นว่าจังซั่น

จึงว่า‘มันกว้าง-มันลึกเด๊’ เพราะว่าทุกคนมันจะประสบเอา(อัน)นี่นะ

จวนจะหมดลมหายใจนี่นะ-บ่ยกเว้นแท้ ๆ ญาพ่อเข้าใจจังซั่น

ดังนั้น ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนคนเป็น ๆ นี่แหละ

บ่แม่นสอนคนตายแล้วดอก อย่างที่เอาไปสวดคนตาย

เอาพระไปสวดอภิธรรม ๗ นั่นก็ได้ เฮาไปสวดคนเป็นนี่เด๊

บ่ได้ไปสวดคนตายพู้นเด๊ คนตายแล้ว-ฟังไม่เป็นแล้ว

เพิ่นว่า‘กุปปะธัมโม อะกุปปะธัมโม, ปะริหานะธัมโม อะปะริหานะธัมโม,

เจตะนาภัพโพ อนุรักขะนาภัพโพ, ปุถุชชะโน โคตระภู ภะยูปะระโต’

เพิ่นว่าเป็นจังซั่นเด๊-อภิธรรม ๗ ‘เหตุปัจจะโย อารัมมะณะปัจจะโย’ไปพู้นเด๊

แล้วเฮาบ่เข้าใจคำเว้าจังซั่น ญาพ่อบ่เข้าใจแล้วแต่ก่อน

ฟังว่า‘ไปสวดให้คนตาย’ ความจริงเพิ่นบอกเฮานี่นะ

เฮ็ดวิปัสสนานี่นะ เพิ่นบอก‘กุปปะธัมโม’-ว่าซั่น

กุปปะธัมโม-มันจะเซื่องซึม เฮ็ดแล้วมันจะไปต่ออันนั้น-มันจะไปต่อให้ถึงกันอีก

เพิ่นว่า‘ฌานเสื่อม’ เพิ่นเอิ้นว่า‘กุปปะธัมโม’-ว่าซั่น

‘อะกุปปะธัมโม’ว่าซั่น-บ่เสื่อมเลย เพิ่นว่านิ-เพิ่นว่าซื่อ ๆ นี่นะ

ไปเบิ่งตัวหนังสือ-เพิ่นแปลไว้จังซั่นนะ แต่เราไม่เข้าใจเด๊

ว่าไปสวดคนตาย-ให้บุญคนตาย บ่แม่นเด๊-เพิ่นมาว่าให้คนเป็น ๆ นี่ฟังเด๊

จึงให้พวกเฮาเจริญวิปัสสนา

ญาพ่อนำเรื่องมาว่าให้ฟัง-‘กุปปะธัมโม’นั้น เพิ่นว่าฌานเสื่อม

‘อะกุปปะธัมโม’นั้น เพิ่นว่า‘บ่เสื่อม’

‘ปะริหานะธัมโม อะปาริหานะธัมโม เจตะนาภัพโพ อะนุรักขะนาภัพโภ’

เพิ่นว่า‘น้อยอยู่-มันยังอยู่’ เฮาเฮ็ดวิปัสสนานี้ เพิ่นว่า‘ปุถุชชะโน’-มันเป็นปุถุชนโคตรภูไป

*ไปให้มันห่างซะ-ให้มันหวิด(พ้น)ซะในวัฏฏะทุกข์อันนี้

‘ถ้าผู้ใดไปหวิดวัฏฏะทุกข์อันนี้แล้ว-อยู่เหนือทุกข์’ เพิ่นว่าจังซั่น

เป็นคน-หากอยู่เหนือคน อยู่กับโลก-แต่หากอยู่เหนือโลก*

‘กินก้าง-กินดูก บ่คาคอ’เพิ่นว่าจังซั่น จึงเลยบ่ย่าน

บ่ย่านกระดูกคน-บ่ย่านกระดูกผี ให้ว่าบ่ย่านกระดูกวัว-กระดูกควายทั้งหมด

ญาพ่อว่า ‘มันคือกัน-มันเป็นคือกัน’

จึงว่า ‘เฮาบ่ฮู้จักซื่อ ๆ นี้เด๊’

กระตุดมนต์ เครื่องราง-ของขลังปลุกเสก…โอ๊ย-ฮูู้ไปจังซั่น

ยังว่า‘เห็นแจ้ง-รู้จริงตามความเป็นจริงที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้’

ว่าซั่น!!…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *