
ท่านเขมานันทะ (อาจารย์โกวิท เอนกชัย)
ได้รับรางวัล “นักเขียนอมตะ” ของมูลนิธิอมตะ
ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๙-๒๕๕๐
รางวัล “นักเขียนอมตะ” (Amata Writer Award)
ของมูลนิธิอมตะ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๙-๒๕๕๐
รางวัลนักเขียนอมตะ จัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยมี ศักดิ์ชัย บำรุงพงศ์
หรือที่เรารู้จักในนามปากกา เสนีย์ เสาวพงศ์ เป็นนักเขียนอมตะคนแรก
และตามติดมาด้วย โรจ งามแม้น (หรือที่เรารู้จักในนามปากกา เปลว สีเงิน)
นักคิด นักเขียน เจ้าของคอลัมน์ “คนปลายซอย” จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
คณะกรรมการตัดสินรางวัลนักเขียนอมตะ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕๐ มีดังนี้
– ศ.คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต ประธานกรรมการ
– อ.ล้อม เพ็งแก้ว กรรมการ
– รศ.เฉลียว พันธุ์สีดา กรรมการ
– ผศ.ดร.วีระ สมบูรณ์ กรรมการ
– ผศ.ดร.ตรีศิลป์ บุณขจร กรรมการ
– นางชมัยพร แสงกระจ่าง กรรมการ
– นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา กรรมการและเลขานุการ
ได้มีการมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรี นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานพิธี
***
คำประกาศเกียรติคุณ นายโกวิท เอนกชัย (เขมานันทะ)
ผู้ได้รับรางวัล “นักเขียนอมตะ” ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๙-๒๕๕๐
คณะกรรมการพิจารณารางวัล “นักเขียนอมตะ” มีมติว่า
อาจารย์โกวิท เอนกชัย หรือ “เขมานันทะ” เป็นผู้สมควรได้รับรางวัลเกียรติยศ
“นักเขียนอมตะ” ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๙-๒๕๕๐
อาจารย์โกวิท เอนกชัย เป็นกวี นักคิด นักเขียน จิตรกร และประติมากร
ผู้สร้างสรรค์ผลงานหลากหลายรูปแบบ ต่อเนื่องยาวนานมาเป็นเวลาเกือบ ๔๐ ปี
มีผลงานวรรณกรรมกว่า ๖๐ เล่ม นำเสนอเรื่องราวของชีวิต จิตใจ
ความลึกซึ้งของการเป็นมนุษย์ การเรียนรู้จิตใจตนเองและคนรอบข้าง
การมองโลก มองสังคม มองการเปลี่ยนแปลงที่หมุนคลื่นอยู่ในวิถีวัฒนธรรม
ด้วยการตั้งข้อสังเกตอย่างลุ่มลึก ล่วงพ้นไปจากพรมแดนของเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม
ในวิถีของนักเขียน กวี และวิปัสสนิกผู้ปฏิบัติธรรมในทุกขั้นตอนของชีวิต
งานสร้างสรรค์ทางศิลปะทุกแขนงของอาจารย์
จึงเป็นหนึ่งเดียวกับวิถีแห่งการปฏิบัติภาวนาอย่างชัดแจ้ง
ลักษณะเด่นของผลงานนอกจากจะมีมิติกว้างไกล
ในด้านศิลปะ นิเวศวิทยา มานุษยวิทยา
นอกจากจะให้ความรู้ในทางพุทธประเพณีของวัฒนธรรมไทยแล้ว
ยังให้ความเข้าใจลึกซึ้งต่อวิถีชีวิตและแก่นของชีวิตอีกด้วย
นอกจากนี้อาจารย์ยังเป็นนักตีความวรรณกรรม
ผู้มุ่งตรงไปสู่การไขความสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในมหากาพย์
วรรณกรรม วรรรณคดี นิทานชาดก และนิทานพื้นบ้าน
ซึ่งเป็นการตีปริศนาธรรมของการเดินทางไกลแห่งชีวิต
กับแนวคิดทางพุทธศาสนาอย่างมีหลักเกณฑ์งานตีความ
จึงเป็นดั่งสะพานเชื่อมต่อหนทางของบรรพชนให้ทอดยาวสู่อนุชน
เพื่อคนรุ่นปัจจุบันจักได้เหลียวมองวรรณกรรมเก่าในมิติใหม่
และร่วมสืบสานสมบัติทางปัญญานี้ให้กระจ่างแจ้งต่อไป
ผลงานหลายเล่มเป็นการมองการเปลี่ยนแปลงที่หมุนเคลื่อนอยู่ในวิถีวัฒนธรรม
ด้วยการตั้งข้อสังเกตไว้อย่างลึกซึ้ง โดยมุ่งหวังให้คนอยู่รวมกัน
และร่วมกันในสังคมโลกด้วยศานติไมตรี
ในสังคมโลกด้วยศานติไมตรี ในท่ามกลางกระแสที่อาจารย์เรียกว่า
“วัฒนธรรมแห่งการปรนเปรอบริโภคทางอินทรียประสาทและการหยิ่งผยองในวิทยาการ” นั้น
ผลงานของอาจารย์โกวิท เอนกชัย กระตุ้นเตือนมนุษย์ให้ตระหนักรู้ถึงการร่วมชะตากรรม
อยู่ในโลกเดียวกันด้วยความรัก ความปรานี บนเส้นทางสู่ความรู้แจ้งแห่งตน
จึงกล่าวได้ว่าอาจารย์โกวิท เอนกชัย เป็นต้นแบบของนักเขียน
ที่มีผลงานอันสมควรได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็น “นักเขียนอมตะ”
ประกาศ ณ วันอังคารที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๐


ใส่ความเห็น