นมัสการพระสงฆ์ สามเณร เจริญสุขเจริญพรญาติโยมทุกท่านทุกคนทั้งหญิงและชาย
วันนี้เป็นวันดี ดีทุกวันนะแหละ แต่วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตนสูตร กัณฑ์สำคัญ พูดถึงความพอดี มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลาง มีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตา สัมมาอาชีวา สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาวายามะ มีแปด ถ้าเป็นถนนมีแปดเลน ถนนใหญ่ เป็นซุปเปอร์ไฮเวย์ แต่ไปด้วยกันนะ รถทุกคันเข้าไปแล้วไปด้วยกัน แต่มันมีหลายเลนให้หลีกให้หลบให้ไป วันเวย์ ซุปเปอร์วันเวย์ ถนนใหญ่ ทางด่วน สติปัฏฐานสี่เป็นทางด่วนนะ แต่มรรคแปดนี่จะโยนไปที่สติปัฏฐานสี่อีกนะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิเค้าจะมุ่งไปที่สติปัฏฐานสี่ หลักปฏิบัติ ก็ทำให้สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะถูกต้อง เมื่อปฏิบัติแล้วถูกต้องมันก็จะถูกไปเรื่อยๆ
หลวงพ่อเทียนว่าถ้าถูกแล้วไม่ผิด ถ้าผิดแล้วไม่ถูก มันคนละอย่างกัน เหมือนนักวิทยาศาสตร์ว่า น้ำใส ไอ้คำว่าขุ่นคนละเรื่องกันกับน้ำใส น้ำขุ่นไม่ใช่น้ำ อันนั้นตะกอน ความสกปรก มันปนอยู่กับน้ำ เมืองไทยเราทำน้ำขุ่นน้ำเหม็นน้ำเน่าให้เป็นน้ำใสได้ กินได้เลย
พระพุทธเจ้าก็บอกว่าจิตนี้ประภัสสร จิตนี้ใสสะอาดบริสุทธิ์ ที่สกปรกเศร้าหมองเพราะกิเลสจรไปจรมา เหมือนกับน้ำนั้นไม่ขุ่นน้ำใส ไอ้ที่มันขุ่นไม่ใช่น้ำ เป็นขี้โคลน แต่ถ้ากลั่นกรองมาดีๆเป็นน้ำใสกินได้เลย น้ำเน่าน้ำเหม็นที่ในคลองทำด้วยกรรมวิธีกลั่นกรองให้เป็นน้ำใสกินได้เลยเป็นอย่างนั้น
ที่พวกเราปฏิบัติธรรมที่สวดมนต์เมื่อตะกี้นี้ก็เหมือนกันนะ สัพพปาปัสสกรณัง ทั้งสาม ทั้งสี่ ทั้งหก มีอยู่หกข้อใช่มั้ย ไม่ทำบาปทั้งปวง ทำแต่กุศล ทำแต่ ทำจิตทำใจให้บริสุทธิ์ไม่กล่าวร้ายป้ายสี ไม่ อะไรต่ออะไร ยินดีในที่สงบสงัด ทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ขาวรอบ ก็ว่าไปถึงหกข้อ
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรมหละก็รู้ความจริง ทำไมพระพุทธเจ้าถึงแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร เรื่องความพอดี ความไม่เคร่งเกินไป ไม่หย่อนยานเกินไป เพราะพวกพราหมณ์ทั้งหลายพวกนักบวชทั้งหลายชอบเคร่ง เคร่งจนคลั่งหงะ
ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า มาอยู่กับพระพุทธเจ้า สมณะพระสิทธัตถะ ชื่อแรกชื่อสิทธัตถะนะยังไม่เป็นพระพุทธเจ้านะ ก็มาอยู่กับสิทธัตถะ ก็อยากให้สิทธัตถะเคร่ง ไม่กินข้าวกินปลา อดตาหลับขับตานอนทรมานร่างกาย เพราะร่างกายเป็นกิเลส กิเลสอยู่ที่ร่างกาย ก็ทรมานร่างกาย ทรมานกิเลส ให้กิเลสมันหด กิเลสมันหลุดร่วง ก็เลยไม่ได้ตรัสรู้ จนกระทั่งว่ามากินข้าวกินปลา กินข้าวทานอาหารที่นางสุชาดามาให้ ก็เลยมีกำลังวังชาขึ้นมาก็นั่งสมาธิ บำเพ็ญวิปัสสนาได้ ปัญจวัคคีย์หนีไปเลยตอนนั้นนะ หนีไปแล้วว่าสิทธัตถะนี่ไม่ตรัสรู้แน่นอน ไม่ตรัสรู้หรอกไม่ทรมานร่างกาย กินข้าวกินปลา ไม่อุปัฏฐากแล้ว หนี ก็หนีไป
สิทธัตถะก็นั่งสมาธิอยู่คนเดียวไม่มีใครรบกวน ก็เลยตรัสรู้ในวันนั้น
ก็เลยเป็นสิ่งที่ดี ท่านก็เลยแสดงความไม่เคร่งไม่ตึงไม่หย่อนไม่ยานเกินไป เอาพอดีๆ แค่นี้แหละ เป็นทางตรัสรู้ ก็เลยได้ความรู้ได้ความรู้แจ้งรู้จริง ก็เลยไปบอกปัญจวัคคีย์ใช่ไหม ปัญจวัคคีย์ก็ยอมรับ เออ ดีๆ ยอมรับ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรมได้เป็นอรหันต์ด้วยกัน
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมนี่มันหลายแบบหลายวิธี พระพุทธเจ้าแสดงธรรม ก็หลายที่หลายแห่งนะ ในสมัยพุทธกาลนี่พระพุทธเจ้าชอบแสดงธรรมอนุปุพพิกถาห้า และ อริยสัจสี่ นะ
กัณฑ์ที่ยอดนิยมสมัยนั้น อริยสัจ เพราะฉะนั้นการสอนของพระพุทธเจ้านี่ก็สอนไปตามเหตุการณ์นะ อย่าง ชฎิลพันสามนี่เค้าบูชาไฟ พระพุทธเจ้า ก็บูชา พระพุทธเจ้าก็แสดงธรรมเรื่องความร้อนที่สุดคือไฟกิเลสอยางนี้ ท่านจะเอาหนามยอกเอาหนามบ่งเท่านั้นเอง เพื่อจะแก้ทิฐิคนนั้นเอง แล้วไปที่อื่นไม่เห็นพูดเลย ก็พูดเรื่องอื่นไปสิ พูดหลายแห่งหลายที่ ก็พูดแต่ละที่แต่ละแห่งไปตามเหตุการณ์เท่านั้นเอง ทบทวน ทบทวนได้ แต่ต้น ปฐม กาลามสูตรอย่างนี้
ทำไมต้องพูดกาลามสูตร ก็เพราะพวกนั้นมีศาสดาหลายท่านหลายองค์มาแสดง และมาบอกเขาว่าเราถูกต้องที่สุด แล้วองค์อื่นผิดนะที่สอนอย่างนั้น ไม่ดีไม่ถูก เขาก็ไป อีกองค์หลังมา ก็บอกว่า ฉันนี่ถูกกว่า องค์นั้นไม่เข้าท่า ในที่สุด ไม่รู้จะฟังใครไม่รู้จะเชื่ออะไร มันหลายทิฐิหลายทัศนะใช่ไหมหละ
เมื่อพระพุทธเจ้ามา เขา ก็ถามสิ พระองค์จะสำคัญผิดยังงัยละ พวกข้าพระองค์งงไปหมดแล้วนี่ งง ไม่รู้เรื่องแล้วจะเอายังงัยดี ทำนองนั้นนะ พระพุทธเจ้าก็บอกว่า สมควร สมควร พวกท่านต้องสับสนแน่นอนหลายศาสดา หลายองค์หลายท่าน หลายเรื่อง หลายราวนี่ พระพุทธเจ้าเลยแสดงเรื่องอย่าพึ่งเชื่อ ได้ยินได้ฟังอย่าพึ่งเชื่อว่าคนนี้ศาสดาของเรา อย่าพึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้เล่ากันมานาน โบราณกาล อย่าพึ่งเชื่อว่ามีในตำรับตำรา ก็ว่ากันไป สิบข้อใช่ไหม กาลามสูตรเนี่ย แล้วจะเชื่อยังงัย
พระพุทธเจ้าเลยยกตัวอย่างขึ้นมา ความโกรธความโลภความหลงนี่ดีมั้ย มีคุณมีประโยชน์มั้ย ทุกคนก็ตอบว่าไม่ดี ยิ่งโกรธยิ่งทุกข์ ไม่มีคุณเลยมีแต่โทษ ควรสะสมมั้ย ไม่ควรสะสม ควรยกเลิก แล้วพวกคุณเชื่อใครหละ ก็เชื่อเหตุเชื่อผลใช่มั้ย ความโกรธไม่ดี เด็ก ก็รู้ว่าความโกรธไม่ดี นักปราชญ์สรรเสริญมั้ย ไม่ ติเตียน พระพุทธเจ้าก็ ไล่ไป ไล่ไป ไล่ไป จนกระทั่งว่า นรกสวรรค์นะ ทุกคนต้องการอยากมีความสุขใช่มั้ย สวรรค์นี้ โอ้ดี สวรรค์หนะ เดี๋ยวนี้หรือ ชาติหน้า ชาติหน้าโน่นแหนะ พระพุทธเจ้าเลยถามว่าถ้าชาติหน้าไม่มีหละ ถ้าสวรรค์ชาติหน้าไม่มีหละ พวกคุณจะไปที่ไหนหละ ก็ไม่ไปไหนหละอยู่นี่หละ อยู่ในโลกนี้หละแต่ไม่ทุกข์แต่มีความสุข
ถ้าอย่างนี้ ก็ดี ถ้าไม่มี ชาติหน้าไม่มี ก็ไม่ต้องไปสิ ถ้ามีหละ ยิ่งดีสิ ชาตินี้เรา ก็มีความสุข มีศีลมีธรรม ชาติหน้ามีเราก็ไปก็ยิ่งดี ดีสองต่อ น้ำบ่อหน้า แต่มันมีจริงๆ น้ำข้างหน้า ถ้าน้ำข้างหน้าไม่มี ไม่ต้องกินหละ น้ำเรามีอยู่แล้วหนิในกระบอกที่เรามีอยู่แล้ว ก็ยิ่งดีไปอีกเห็นมั้ย มันมี เดี๋ยวนี้ก็มี ข้างหน้า ก็มี ถ้าไม่มี ก็ช่างหัวมันสิ ปัจจุบันเราไม่ทุกข์ มันก็สุขแล้วหนิ สวรรค์บ้านเราแล้ว ถูกมั้ย มันก็เลยหายห่วงนะ เป็นอย่างนั้น เป็นความเชื่อ หลักแห่งความเชื่อในกาลามสูตร ไม่ใช่มีสิบข้อเท่านั้นมันไปอีกหลายข้อหลายหน้าหลายกระดาษ คำอธิบายของพระพุทธเจ้าในกาลามสูตร
พวกฝรั่งงงเลย เอ๊ะทำไม ไม่ให้เชื่อวะ ครูบาอาจารย์ ก็ไม่ให้เชื่อ ตำหรับตำรา ก็ไม่ให้เชื่อ แล้วจะเชื่อใคร มันจบแค่นั้น มันอธิบายไปอีกไม่มี มันหางด้วนเลย แต่พระพุทธเจ้าสอนไปอีกตั้งไกล เป็นชั่วโมงสองสามชั่วโมงใช่มั้ยหละ ไม่ใช่ว่าสิบข้อแล้วจบนะไม่ได้จบนะ หลายชั่วโมง เทศน์อยู่นั้นหละ พวกเรามางง เอ๊ะทำไมต้องตัดทิ้งวะ เหมือนมหาดิเรก แกตัดสวรรค์หกชั้นออกเลย สวดธัมมจัก หนะ แกตัดออกเลย กล้าหาญมากเลย มหาดิเรก แล้วสวดธัมมจัก ตอนสวรรค์หนะ จาตุมหาราชิกานังเทวานังสัทธังสุตวา เป็นต้นไปแกตัดออกเลย ไม่ต้องไปสวดแล้วพวกนี้ แกกล้าหาญมากตัดทิ้งเลย เป็นอย่างนั้นไป
เพราะฉะนั้นเรื่องกาลามสูตรเรื่องสูตรใดก็ตาม พระพุทธเจ้าแสดงเฉพาะกาลเฉพาะกิจ เฉพาะเรื่องนั้นเรื่องนั้นหรอก เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรมถ้าเราไม่เข้าใจความจริงมันก็จะไม่รู้จะเชื่อยังงัยหละนะ ไม่รู้จะเอายังงัย มีหนังสือตำราเล่มหนึ่งเราก็ชอบอ่านชอบเรียน เค้าบอกว่า การปฏิบัติธรรมก็ดี การใช้ชีวิตประจำวันก็ดีคุณต้องหาคำตอบจากคุณเองว่าคุณเชื่ออะไรให้พบ คุณเชื่ออะไร คุณศรัทธาอะไร ศรัทธาพระเจ้าเหรอ ศรัทธาธรรมะเหรอ ศรัทธาหลวงพ่อเทียนเหรอ ศรัทธาอะไร
เมื่อเราปฏิบัติเราก็เห็นเลย โอ เราศรัทธา พระพุทธเจ้า เหรอ พระพุทธเจ้าอยู่ไหนหละ คืออะไรหละ
วันหนึ่งหลวงพ่อเทียนพูดดี คุณดา หลวงพ่อนี่เชื่อพระพุทธศาสนาร้อยเปอเซ็นต์ ใครจะเอาขนมมาอ่อยมาล่อ ก็ไม่เอา พูดน่ารักหลวงพ่อเทียน
คุณเชื่อมั่นแล้ว มอบหมด เชื่อหมดแล้ว ใครจะเอาอย่างอื่นมาล่อมาหลอก ก็ไม่เอา ไม่ไป น่ารัก
เพราะฉะนั้นมันเชื่อร้อยเปอเซ็นต์ พันเปอเซ็นต์ มันก็จบในตัวมันแล้วนะ ไม่ต้องไปถามใครแล้ว พระพุทธเจ้ามีจริงมั้ย ตรัสรู้อะไร ไม่ต้องไปถามแล้ว เห็นความเชื่อตัวเอง เห็นความจริงที่เราหา
อย่างพระพุทธเจ้าตอนก่อนตรัสรู้ท่านก็เชื่อว่าความไม่เกิดไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตายมีจริง มันต้องมี แล้วอยู่ไหนหละ กำลังหาอยู่ หาไปหามา ก็เจอสิ ในกายกว้างศอกยาววา หนาคืบ มีสัญญา มีใจนี่แหละ มีสัจธรรม หรือนิพพานก็ได้นะ เราเชื่อมั้ย เชื่อสิ นิพพานังปรมังสุขัง
เพราะฉะนั้นหา ความเชื่อตัวเองให้เจอ
วันหนึ่ง เราอยู่ที่อเมริกานะ ผู้หญิงคนนึงอายุ 80 กว่า โดยประมาณนะ เหมือนกับยายคนเมื่อวาน แกก็เดินเข้ามาคนเดียวนะ
เราก็นั่งอยู่คนเดียว สถานที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก เราก็นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว แกก็เดินเข้ามา
นี่คุณเป็นอะไร ฉันเป็นbuddhistฉันเป็นชาวพุทธ ฉันเป็นmonk เป็นนักบวช เธอก็ถามทันทีเลย คุณเชื่อพระเจ้ามั้ย
เราก็ตอบทันทีเหมือนกัน เชื่อสิ เราเชื่อพระเจ้า แกดีใจด้วย เราเชื่อพระเจ้า แล้วพระเจ้าของคุณ คือใครหละ อยู่ที่ไหนหละ เราบอกคือธรรมชาติ อยู่โน่น บนสรวงสวรรค์โน่นหนะ พระเจ้าของฉันคือกฎธรรมชาติ ก็เข้ากันได้หละ ทำนองนั้นหละ
ถ้าเราปฏิเสธทันทีเลย เป็นศัตรูทันทีเลยนะ มีทำนองนั้นหละ พระหนุ่มไปคุยกับผู้หญิงสามสี่คน ก็รุ่นเดียวกันประมาณนะ
เค้าเชื่อพระเจ้ามั้ย ไม่เชื่อ ศาสนาพุทธไม่มีพระเจ้า ไม่เชื่อ เอาใหญ่เลย ทะเลาะกันเลย เราก็มาแยกออก เราชอบแยกคนอื่น ทะเลาะกันก็ต้องขออภัยเขาแล้วรีบดึงเพื่อนๆออกมา เดี๋ยวมันจะทะเลาะกันหนักกว่านั้นอีก
เพราะไม่เชื่อ ความเชื่อผิด ทำให้คนทะเลาะกัน ถ้าเชื่อถูก ก็ถูก
มีพราหมณ์คนนึงมาถาม พระพุทธเจ้า ท่านสมณโคดม ท่านรู้จักพรหมมั้ย รู้จักทางไปหาพระพรหมมั้ย รู้สิ รู้จักทางด้วย รู้พระพรหมด้วย
แล้วพระพรหมอยู่ที่ไหนหละ พระพรหมสี่หน้า บนฟ้า บนสวรรค์ บนพรหมโลกใช่ไหม
พระพุทธเจ้าบอกว่า พระพรหมของเรา นี่คือพ่อแม่เป็นพรหมของลูก เอามานี่เลย นี่คือปรมัต นี่คือความจริง
อาตมาก็ตอบผู้หญิงคนนั้นเค้าไปนะ เค้าก็ดีใจเป็นมิตรทันที ไม่เป็นศัตรู
เป็นเรื่องเล่า ไม่ใช่เรื่องจริง อาจจะเรื่องจริง แต่เหมือนเรื่องเล่า เราก็งงตัวเองเหมือนกัน ไปนั่งอยู่ได้ยังงัย แล้วผู้หญิงคนนั้นเดินมาได้ยังงัย มาจากไหน พี่น้องเค้าเป็นใครไม่รู้ มันเป็นเรื่องเล่าก็แปลกดี
ความเชื่อนี่สำคัญนะ พระเยซู วันหนึ่งพระเยซูอยู่ที่เรือ เค้าหาปลา พระเยซูก็นอนอยู่ ฝนตกหนักด้วย พระเยซูก็นอนเฉยเลย ไอ้หนุ่มคนหนึ่งมันจะมาหาที่เรือพระเยซูนั่งอยู่นั้นนะ ถ้าเธอเชื่อพระเจ้าจริง ถ้าเธอแน่จริง เธอเดินไต่น้ำมาหาฉันสิ ให้เดินไต่น้ำมาหาฉันเลย มันเดินมาก็จมสิ ไอ้คนนั้นมันไม่เชื่อ แต่ถ้าเชื่อมันก้อเดินมา
อันนี้ก็เหมือนกันพระเยซูว่า ถ้าเธอเชื่อในพระเจ้าจริง เธอจงเดินไต่ผิวน้ำมาหาฉันเดี๋ยวนี้ เดินมา ก็จม มันไม่เชื่อมันก็จม ทำนองนั้นนะ
วันหนึ่งเพื่อนของอาตมา ห้าหกขวบ เค้ามีพระกริ่งอยู่องค์หนึ่งไม่ใหญ่หรอกองค์เล็ก เค้าก็ใส่มือของเค้า เค้าเรียก เสี่ยงพระ เข้าทรงพระ เมื่อมันขึ้นแล้วมันจะไปไหนก็ได้นะ พูดภาษาแขกภาษาขอมได้หมดเลย เที่ยวนรกสวรรค์ที่ไหนก็ไปได้หมดเลย ขอให้มีผู้ถาม ถามอะไรตอบได้หมดเลย อายุห้าหกขวบนะ อาตมาก็เลยบอกเพื่อน เฮ้ยมึงทำให้กูหน่อยสิ กูจะรอ มันก็เอาพระมาใส่มือเรา แล้วนั่งขัดสะหมาด มันก็เป่าคาถาด้วย เสกคาถา นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ มันก็เป่าให้เรา เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มันก็ทรงอยู่นะ
มันก็ เริ่มเคลื่อนไหว ข้างในนะ เราก็ อืม ไม่เอาดีกว่า ถ้ามันขึ้นแล้วไม่เอาลงมาไม่เรียกเราลงมา เราจะเป็นบ้าไปเลย เราคิดเอาเองนะ เราไม่ขึ้น มันก็หยุดเป่า มันรู้นี่ พอแล้ว เหมือนกับเราสีไฟ มันจะเกิดไฟเกิดควันมันก็ก็รู้มันก็หยุด ทำไมมึงไม่ขึ้น มึงเกิดวันแข็ง เด็กคนนั้นพูดนะ
ที่จริงมันจะขึ้นอยู่แล้วนะ แต่เราไม่อยากให้มันขึ้น เราก็หยุดสิ เกือบแล้ว ถ้าเชื่อมันทั้งหมดเต็มร้อยเปอเซนต์มันก็ขึ้น ไปแล้ว
ไอ้ความเชื่อนี่สำคัญนะ เหมือนพวกชาวใต้เค้าลุยไฟ พวกนี้เค้าเชื่อจริงๆนะ เมื่อเชื่อจริงความรู้สึกมันจะพอดีของมัน
ถึงร้อนมันก็ร้อนไม่มากเต็มร้อย แค่ห้าสิบ ห้าสิบนะ ไปเดินไฟสบายเลย เพราะมันเชื่อ ความเชื่อ ปฏิบัติธรรมก็เหมือนกันนะ
เราอยู่ในป่าเราก็เชื่อว่า อะไรหละพวกผีพวกเสือพวกช้างมาจะกินเรา เราก็เชื่อ มันจะกินเราอย่างนี้ เราเชื่อแล้ว แต่ถ้าไม่กล้าหาญ ก็อาจจะถูกมันกินจริงๆ
แต่ถ้าไม่เชื่อ โอไม่เชื่อหรอก มากินกู มึงกินกูไม่ได้หรอก เสือนี่ มันจะเป็นมิตรกูเป็นเพื่อนกู เชื่อว่ามันเป็นเพื่อนเรา
หลวงพ่อเจ้าคุณวิริยัง หลวงปู่มั่นให้ ไปนั่งสมาธิอยู่ที่เสือมาเสือไป เสือผ่านมามากินวัวกินกวางอยู่แถวนั้นนะ แกก็ปลักกลดอยู่แถวนั้น แค่นั้นแหละตัวสั่นแล้ว เหงื่อแตก กลัวเสือจะมากิน แกก็กล้าหาญขึ้นมา คำสั่งของครูบาอาจารย์เราต้องทำได้สิ มันจะกินก็กินสิ ในที่สุดเสือไม่กินเลย ปักกลดแล้วเสือก็เดินรอบอยู่แถวนั้น แต่มันไม่กิน รอด
ไอ้ความเชื่อนี่สำคัญนะ ปฏิบัติธรรมนี่สำคัญ ต้องรู้ เราต้องรู้ความจริงทุกคนรู้ได้ รู้ได้จริงๆใช่ไหมหละ
เมื่อเห็นความจริงแล้ว ก็ เปิดโลกเปิดสัจธรรม ตาสว่าง
เอาหละ พูดมากก็มากความนะ หาที่ลงดีกว่านะ
ที่จะลงนี่ก็ อาตมาไปอเมริกาหลายเที่ยว นั่งเครื่องบินไปหลายพันไมล์แล้ว ไปแทบทุกรัฐ ห้าสิบรัฐไปมาสามสิบกว่ารัฐแล้ว เราสังเกตุข้อนึง ที่ขึ้นเครื่องบินแต่ละคนมีโทรศัพท์แทบทุกคน มีคอมพิวเตอร์ มีมือถือแทบทุกคน อยากจะเล่นอยากจะดูรายการของเรา
แต่เครื่องบินทุกเครื่องเลย ทุกคนต้องปิดโทรศัพท์ ปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ทำไมต้องปิด เพราะเค้ากลัวว่าสัญญาน จะขึ้นจากข้างบ้นไปสับสนชนกับสัญญาณของนักบินเค้าหนะ เค้า ติดต่อตลอดเวลานะพวกนั้นนะ ติดต่อกับสนามบินแต่ละแห่ง แต่ละประเทศ จะผ่านไปไหนไปไหน ก็รู้หมด ติดต่อตลอด ถ้าเราเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์กันอยู่สัญญาณมันจะไปสวนกับสัญญานที่เค้าติดต่อกันอยู่
วันหนึ่งที่เนปาลไม่ใช่เนปาล ที่ภูฏาน เครื่องบินการบินไทยเรานี่แหละไป พอดีฝนตก หมอกมาก สนามบินไม่ชัดเจน เค้าเลยว่ากลับไปก่อน อ้อมไปอีกรอบก่อน ค่อยมาลง ไอ้ภูฎานเราเห็นแล้วมันเสียวๆนะ ภูเขามันกระชั้นชิดมีภูเขามีเหว แลนดิ้งมันนิดเดียวเอง เข้าทางเดียวด้วย เค้าก็อ้อมไป พวกนักบินก็บอกว่าเราต้องไปเนปาลแล้วค่อยกลับมาใหม่ ว่าจะไปเนปาลนั้นแหละ ชนกับภูเขาหิมาลัยตายกันหมดเลย
แล้ววันนี้ปิดแล้วทุกคนก็ยอมรับใช่ไหม เอ้าปิดก็ปิด ไม่สูบบุหรี่ใช่ไหม ก็ไม่สูบสิ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ใช้โทรศัพท์ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ ปิดหมดเลย ทุกคนก็นั่งเหงานั่งเงียบ
วันนั้นก็นั่งจากเมืองไทยนี่แหละ nonstop17ชั่วโมงไม่หยุดที่ไหนเลย ไปถึงนิวยอร์ค ทุกคนก็นั่งตัวแข็งอยู่นั้นแหละ ไม่ไปไหนหละ ไม่ลงเติมน้ำมันแล้ว เครื่องบินใหญ่ การบินไทย หลังโควิด ปิดกันหมดเลย สายการบินเจ๊ง
เราปฏิบัติธรรมนี่ ก็ไม่ต้องเกี่ยวกับโทรศัพท์มากนะ การทำวัตรสวดมนต์ก็ไม่ต้องโทรศัพท์
สมัยก่อนแม่ใหญ่ทำวัตรสวดมนต์นี่ แม่ใหญ่ก็รับโทรศัพท์หลานโทรมา จากบ้าน
แม่ใหญ่ก็บอกกำลังทำวัตรอยู่ ตอนนั้นโทรศัพท์มันใช้กันทุกคน เติมบัตรมันง่ายไปป่าไปเขาไปไร่ไปนาถือมันง่าย ใช้ได้ตลอด เดี๋ยวนี้เติมบัตรก็จะสูญพันธ์แล้ว ไม่อยากนิยมแล้วใช่มั้ย
เพราะฉะนั้นเรื่องนี่เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่เคารพกติกาก็ไม่รู้จะว่ายังงัยแล้วนะ
มีความสุข ภูมิใจว่าช่วยเขา การบินเขาก็ขับได้สบาย ไม่ตก
เอ้าสมควรแก่เวลาแล้วปฏิบัติกันสักหน่อยนะ หมดเวลาแล้ว
ใส่ความเห็น