รู้สึกกาย รู้สึกใจ 9 มกราคม 2021

“บัดนี้คนกลัวทุกข์

บัดนี้ก็ต้องไปเข้าโรงเรียน เรียนหนังสือมาก ๆ

สอบไล่ได้ปริญญาตรี-ปริญญาโท-ปริญญาเอก เพื่อกันทุกข์

กลัวทุกข์นั่นแหละ

แล้วบัดนี้*ทุกข์เกิดขึ้น เลยบ่รู้จัก-บ่รู้สึกตัวเลย*

บัดนี้คนหาเงินเดือนก็คือกัน เงินเดือนร้อย-พัน-หมื่นก็ตามช่าง

เพื่อกันทุกข์-กลัวทุกข์นั่นเอง จึงว่าเราบ่รู้จัก

ให้เข้าใจว่า เราเรียนหนังสือเรียน-เพื่อหน้าที่ของเราเรียน

เข้าใจจังซี่ บ่คิดว่าสิเฮ็ดหยัง-เรียนเพื่อว่าหน้าที่

เพราะทุกคนเกิดมาต้องเรียน

บัดนี้การหาเงิน-หาทองก็เช่นเดียวกัน หาเพื่อหน้าที่

เพราะคนมันต้องมีการหา การทำมาหากินเลี้ยงชีพ

เพิ่นว่า ทุกคนต้องรู้อย่างนี้

ดังนั้น *พระพุทธเจ้าจึงสอนให้คนกลัวสิ่งที่อยู่ในตัวเฮานี้

ครั้นถ้ากลัว-บ่ต้องกลัวข้างนอก กลัวความคิดนี่เอง*

ความคิดนี้ น้ำหนักยี่สิบ-สามสิบกิโล หรือห้าสิบ-หกสิบกิโลก็ตาม

น้ำหนักของคน-มันเอาไปได้ มันยกไปได้สบาย-ยกตัวเฮานี่ไปได้สบาย

*ผู้ใดหากบ่เห็นความคิดตัวเอง ความคิดตัวเองก็หลอก

หลอกเฮาให้กลัว หลอกเฮาให้ทำอย่างนั้น-หลอกเฮาให้ทำอย่างนี้

มันหลอกเฮา จึงว่าถ้ากลัว-ให้กลัวภายในเฮานี่โลด

เอาชนะภายในเฮานี้ เมื่อเฮาเอาชนะความคิดที่ปรุงแต่งภายในนี่แล้ว

ความกลัวก็หมด ความสงสัยลังเลใจ-กังวลก็หมด

และความเศร้าหมองซึมเซา-หดหู่ ก็หมดเหมือนกัน

ถ้าเราเห็นความคิดเราจริง ๆ แล้ว*

*ดังนั้นมาเจริญวิปัสสนา เจริญกรรมฐานก็ตาม

มาทำความเคลื่อนไหวนี่-เพื่อให้รู้สึกตัว รู้แจ้ง-รู้จริง

ฝึกหัดให้มีสติว่องไว ให้มีจิตผ่องใส

เพิ่นว่าจิตใจเฮานี่แหละผ่องใส นึกคิดอันใด…ก็เห็น-ก็รู้*

การทำการ-ทำงาน พูด-คิด

เมื่อตัดสินใจลงไปแล้ว การงานนั้นก็ไม่ค้างมือได้

ต้องลุล่วงไปได้ หรือแล้วไปได้

คนที่ทำการ-ทำงานค้างมือเอาไว้ งานบ่แล้ว-มันทุกข์

ก็เพราะบ่เห็นจิต-บ่เห็นใจนี่เอง

เมื่อจิตใจเศร้าหมอง-โงกง่วงหดฮู่ ว่าซั่น…บ้านหลวงพ่อว่าหดฮู่-ว่าซั่น

ทางนี้ขเจ้าสอนว่า-อย่าสู่ว่าหดฮู่เนาะหลวงพ่อ หดหู่ว่าซั่น-ขเจ้ามาบอกให้

ญาพ่อก็จำได้-อันนี้เป็นความจำซื่อ ๆ

*ดังนั้นคนเราต้องมีสัญญาเกิดมาจากธรรมชาติมันจริง ๆ

เมื่อเรามีสัญญาเกิดมาจากธรรมชาติจริง ๆ แล้ว

สิ่งนั้นแหละ เราจะรู้แจ้ง-เห็นจริงตามความเป็นจริง

ท่านว่าการพูดธรรมะมื้อนี้ คล้าย ๆ คือหงายของที่คว่ำหน้าอยู่นี้

ของที่บิดเกลียว-มันอัดแน่นอยู่ คล้าย ๆ คือเฮามายออกจังซี่ล่ะ*

บ้านหลวงพ่อเคยถือผี-ถือมเหศักดิ์หลักคุณ ว่าซั่น

ขเจ้าว่านั่นแหละผีบ้านผีเมือง-ผีปู่ ผีหลาย

บ้านหลวงพ่อ…ขเจ้าฆ่าควายให้กิน-ฆ่าเลี้ยงผี ฆ่าหมู-ฆ่าควายให้กิน

ครั้นถ้ามันเป็นโรคอหิวา-เพิ่นว่าเอิ้นผีห่า ไปล้อมรั้วแล้วผีไปกันให้-เป็นจังซั่น

ผีกัน-ผีห่า บ่ให้เข้ามา…ก็เฮ็ดนำเพิ่น-ญาพ่อ

เฮือนมนต์รักษากันผี ก็เฮ็ดนำเพิ่น-ก็ได้เรียนนำเพิ่น

อันนั้นแสดงว่าเจ้าของบ่ฮู้จัก เฮ้ดนำเพิ่นซื่อ ๆ

ผีมันดีจังใด๋-เฮาฮู้จักโลด ฟังหลวงพ่อว่านี้-พิจารณาให้เห็นแจ้งรู้จริง

ผีบ้านผีเมือง-ผีมเหศักดิ์หลักคุณ ผีหยังก็ช่างเถอะ

เฮาปลูกตูบ-ปลูกศาลพระภูมิให้อยู่ บ้านหลวงพ่อบ่ได้ใช้อิฐหินดินปูนจั่งซี

ใช้ไม้ฝังให้เป็นเสา ก็เอาหญ้ามามุงแล้วก็เอาไปแอ้ม

ปลวกขึ้นไปกัด-ไปกิน มันก็บ่ไล่ได้-ผี

หญ้าก็กัดหมด ฝนตกก็รั่ว-ก็บ่หยดบ่หยาอีหยัง

ในบริเวณบ้านก็รก หญ้าก็ป่งขึ้นมา

ใบไม้ขูลงฮั้น ก็บ่ปัด-บ่กวาด…เป็นหยัง ?

นี่แสดงว่าผีบ่มีประโยชน์หยังเท่าใด เฮาย่านเอาซื่อ ๆ นี่

*ผีที่อยู่ภายในจิตใจเฮานั้นโลด บ่ฮู้จัก*

ฉะนั้น*คนจิตใจต่ำ ก็เอิ้นเรียกว่าผี*-เพิ่นว่า

*จิตใจสูง เพิ่นเอิ้นเรียกว่าเทวดา*-เพิ่นว่า

ดังนั้นจิตใจต่ำ เป็นผี

ถ้าหากผู้ใดยังจิตใจต่ำอยู่-ก็แสดงว่าตัวเองยังเป็นผีอยู่ เพิ่นว่าจังซั่น

ถ้าหากจิตใจสูงเมื่อใดแล้ว ตัวเองก็เป็นเทวดา

แล้วละอายการเฮ็ด-การทำสิ่งนั้น เพิ่นว่าจังซั่น…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *