รู้สึกกาย รู้สึกใจ 25 พฤษภาคม 2023

“…เรื่องชีวิตจิตใจนี้ จึงว่ามันมองไม่เห็น

ความเป็นทุกข์หรือไม่ทุกข์ มันก็มองไม่เห็น

จะเปรียบเทียบให้ฟัง

เรื่องความทุกข์-ความสุขนั้น มันไม่เหมือนกัน

‘มีเพื่อนอยู่ ๒ คนด้วยกัน’ ว่าอย่างนั้น

พ่อแม่ครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง

‘การเกิดมานี่ เคยไปทำบุญร่วมกัน

เคยไปรักษาศีลร่วมกัน เคยไปทำกรรมฐานร่วมกัน

ผลที่สุดก็ตายแล้วเหมือนกัน’

นี่ ความทุกข์-ความสุข…มันเป็นแบบนี้-ตาย

‘ตายแล้วบัดนี้

คนที่รักษาศีลหรือให้ทานบริสุทธิ์นั้น

ตายแล้ว ก็ต้องไปเกิดเมืองสวรรค์-เป็นเทวดา’

พ่อแม่ปู่ยาตาทวด-ครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง

บัดนี้คนที่ให้ทานไม่บริสุทธิ์-รักษาศีลไม่บริสุทธิ์

ให้ว่าทำกรรมฐานอะไรก็ตามแล้ว-ไม่บริสุทธิ์

ตายแล้วก็เลยไปเกิดเป็นหนอนอยู่ในห้องส้วมของพระ

ไม่ใช่ส้วมนอนนะ ส้วมอุจจาระ

บ่อน(สถานที่)ไปถ่ายอุจจาระ ถ่ายหนักนั่นแหละ

ถ่ายหนัก-ถ่ายเบานั่นแหละ ไปเป็นหนอน

บัดนี้ทั้ง ๒ คนนั่นแหละ มีการแสวงหากัน

เพราะว่าได้ให้ทาน-รักษาศีล ทำบุญอะไรร่วมกัน

เลยไม่พบ-ไม่เห็นกันเลย

ก็เลยต่างคน-ต่างแสวงหากันอยู่อย่างนั้น

ผู้ไปเกิดเป็นเทวดานั้น

มีโอกาส-มีเวลาที่จะก้มหน้ามองเห็นทิศทางใต้

เรียกว่าทางลุ่ม(ข้างล่าง)ไปอย่างที่เคยพูดกันมา

ว่าคนที่ขึ้นไปอยู่บนภูเขาสูง ๆ

สามารถที่จะมองเห็นพื้นดินทางใต้-ทางลุ่มนี้ได้

หรือจะเปรียบอีกอย่างหนึ่ง

ก็เหมือนอย่างที่เราไปขึ้นเครื่องบิน เครื่องบินพาไปที่บนฟ้านู่น

หรือจะเปรียบอย่างที่เรานั่งกระเช้า

อย่างที่เขาทำกระเช้าที่มาเลเซียนี่ เราไปนั่งกระเช้ามีเชือก

แล้วเราก็ไปนั่งอยู่ในนั้น ๔ คน ๕ คน

แล้วก็นั่งกระเช้า กระเช้าก็ไป

ก็มองเห็นทิศทางหลายที่-หลายทาง

แล้วก็คนอยู่พื้นดิน(มองไป)บนภูเขา มองไป-ไม่เหมือนกัน

เป็นอย่างนั้น เปรียบเทียบได้อย่างนี้-เรื่องชีวิตของคน

ดังนั้น*การปฏิบัติธรรม*ก็เหมือนกัน คนตกน้ำก็เหมือนกัน

*ความสว่างนั้นจะไม่เหมือนกัน*

ดังนั้นคนที่เป็นหนอนนั้น จึงไม่สามารถมองเห็นเทวดาก่อน

เทวดานั้นจึงสามารถเห็นหนอนก่อน

เมื่อมองเห็นหนอนแล้ว ก็เลยมาหา

ผู้เป็นเทวดามาหาหนอน ก็เลยมา(เรียก)

‘เฮ้ย! เพื่อน ทำไมมาอยู่ที่ตรงนี้’

‘โอ!’ ผู้เป็นหนอนก็เลยรู้ว่าเสียงเพื่อนเรา

(จึงถามกลับ)‘เฮ้ยเพื่อน มาจากที่ไหน ?’ ถามกัน

เลยรู้จักกันได้เมื่อต่อได้ยิน-ได้ฟังเสียงกัน

และมันฟังกันได้ แต่ว่าเสาะหากัน-มันไม่เห็น

เมื่อได้ฟังเสียงแล้ว ก็เลยรู้เสียงกันได้-มองเห็นกันได้

ผู้เป็นเทวดาก็เลยบอกว่า‘เราไปเกิดเป็นเทวดาอยู่เมืองสวรรค์’

(หนอน)ก็เลยถาม‘เมืองเทวดา-เมืองสวรรค์นั้น

มีความทุกข์-ความสุขอย่างไร เพื่อนเล่าให้ฟัง

(ถึง)คุณค่าของเมืองสวรรค์บ้าง(ได้)ไหม ?’

ผู้เป็นหนอนถาม ผู้เป็นเทวดาก็เลยเล่าให้ฟัง

‘เมืองสวรรค์-เมืองเทวดานั้น มีของทิพย์-เป็นทิพย์

อยากได้อะไรก็เป็นทิพย์

อยากได้เสื้อได้ผ้า-ก็นึกเอา ก็ไหลมาเลย

อยากได้เงิน-อยากได้(ทอง)คำ นึกแล้วก็ไหลมาเลย

อยากได้บ้านดี ๆ สวย ๆ-งาม ๆ

นึกแล้วก็มีบ้านขึ้นมาสวย ๆ-งาม ๆ เป็นอย่างนั้น

เมืองสวรรค์มีความสุขอย่างนั้น’

ทางผู้เจ้าหนอนนี่ก็คิดว่า‘มีความทุกข์แล้ว’-บัดนี้

แน่! *ความเห็นมันไม่เหมือนกันอย่างนี้แหละ

การกระทำ(จึงไม่เหมือนกัน)*

ชีวิตของคนนั้นก็เหมือนกัน ตายแล้วก็เหมือนกัน

มันความคิดของคนที่ตายแล้ว-มันไม่รู้

(เมื่อ)ไม่รู้ แต่ว่า**เราต้องศึกษาให้รู้

(ตั้ง)แต่เมื่อยังเป็นคนนี่เอง (ให้รู้ว่า)

ความทุกข์มันเป็นอย่างนั้น ความไม่ทุกข์มันเป็นอย่างนั้น**

(ที่พูดกันว่า)‘ตายแล้วก็ค่อยมีความสุข’

อาตมาก็ไม่รู้ มีความสุขหรือไม่มีความสุขก็ยังไม่รู้

เพราะยังไม่ทันตายนี่ อาตมาก็ยังไม่ทันตาย-จะรู้ทำไม ?

รู้ก่อนล่วงหน้าไม่ได้

*การปฏิบัติธรรมจะเป็นการคาดคิดเอาไม่ได้* เป็นอย่างนั้น

บัดนี้ไอ้เจ้าหนอนนี่ก็เลยไม่ไป เทวดาก็เลยถาม

‘เธออยู่นี่ มีความทุกข์หรือความสุข ?’

หนอนตอบ‘มีความสุข ไม่ต้องได้นึก-ได้คิดอะไรกันเลย’

นี่! เพราะความเห็นมันเป็นอย่างนั้น

มีความสุขเพราะว่าไม่ได้นึก-ได้คิด

‘อาหารดี ๆ ทั้งนั้น เขาเอามาถวายให้เลย-ไม่ได้นึก

ต้องการยามใด เอายามนั้นเลย พลิกคิงติงตัว(เคลื่อนไหวตัว)

มีแต่อาหารดี ๆ ทั้งนั้น’ เพราะเป็นอุจจาระ

หนอนกับอุจจาระนี่ (หนอน)มัน(ชอบ)อยู่กับของเน่า-ของเหม็น

เป็นอย่างนั้น

บัดนี้ผู้เป็นเทวดาก็เลยพูด‘อันนี้ไม่ใช่เป็นอาหารนะเพื่อน’

‘เป็นอันใด ?’ (หนอน)ถาม

ให้อาตมาพูดเป็นภาษาบ้านอาตมา‘เป็นอันใด’

‘ขี้-เพื่อน’ (เทวดา)ว่าจังซั่น

‘โอ…อันนี้เป็นขี้ โอ…เป็นจังซี่-อันนั้นเป็นขี้’ ว่าซั่น

‘เป็นของสกปรก’ (เทวดาบอกกับหนอน)

‘เมืองเทวดา-เมืองสวรรค์ มีขี้บ่ ?’ (หนอนถาม)

‘โอ๊ย! เมืองเทวดา-เมืองสวรรค์บ่มีขี้แล้วเพื่อน

มันเป็นของทิพย์ มันจะมีขี้จังใด๋’ (เทวดาตอบ)

‘โอ! ถ้าหากเมืองสวรรค์-ไปเป็นเทวดา บ่มีขี้

เฮาก็ไปนำหมู่บ่ได้แล้ว เพราะเฮากินขี้’

ว่าแล้ว-(หนอน)ก็ดิก(มุด)หัวลงโลด ว่าซั่น

ดิกหัวลงกองขี้นั่น-ก็เท่านั้นเอง ก็เลยจบเรื่องนิทาน

ดังนั้น การทำบุญ-การให้ทาน การรักษาศีลนี่

เช่นเดียวกัน จะไปคาดคิดเอาล่วงหน้าไม่ได้

ดังนั้นคนไม่ทันตาย จะถือว่า

ตายแล้วมีความสุข-ก็ไม่ได้ ตายแล้วมีความทุกข์-ก็ไม่ได้

เหมือนกับเถ้า(ของ)ไม้ดิบกับไม้แห้ง เป็นเถ้าได้เหมือนกัน

ตายแล้วอาจมีความสุขได้เหมือนกัน หรือจะต่างกัน

ยังไงไม่ทราบ เพราะเราไปเลือกคัดจัดหาเอาเถ้านั้น

(ว่า)อันนี้เถ้าไม้แห้ง-อันนี้เถ้าไม้ดิบ เราไม่เห็น-เราไม่รู้

เพราะว่าเมื่อเป็นไม้ดิบกับไม้แห้งที่เรามองเห็นด้วยตา

(เรา)รู้ได้อย่างสบาย ๆ ทุกคนรู้ได้-เป็นอย่างนั้น…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *