รู้สึกกาย รู้สึกใจ 1 เมษายน 2023

“…**‘ถึงที่สุดแล้ว ญาณย่อมมี’

มันถึงที่สุดแล้ว มันจึงรู้ครับ**

ก็เลยเป็นวิปลาสที่ตรงนี้ครับ

แต่ผมเป็น ผมไปติดความสุขครับ

เพราะไม่เคยเป็น ไม่เคยมีอย่างนี้

ผมเดินไป เดิน-กำลังเดินจงกรม

นึกว่ามันสูงขึ้นไปประมาณสักเมตรนั่นแหละครับ หรือ ๒ เมตร

เหินดินขึ้น คือเดินอยู่บนอากาศนี่แหละครับ

มันเป็นอย่างนั้น

แต่ความจริง เดินบนดินนั่นแหละครับ

แต่มันเป็นในใจครับ

เหมือนเราเดินอยู่บนอากาศได้ เป็นอย่างนั้น

ก็เลยติดความสุขอันนั้น

ไม่นาน…ผม-‘เอ! ทำไมมันเป็นอย่างนี้’

ผมก็เลยหวนกลับเข้ามาดูอารมณ์ครับ

ตอนนี้ต้องทวนอารมณ์

แต่ไม่ไปทวนอารมณ์ของรูป-นามครับ

**เมื่อมาทวนอารมณ์

เห็นอารมณ์-เข้าใจอารมณ์แล้ว

ความสุขอันนั้นก็จะค่อยจางไป-จางไป

หรือลดน้อยลง-ลดน้อยลง ก็จะมาอยู่ปกติเองครับ

ให้มันเป็นปกติครับ

เห็น-รู้-เข้าใจ ไม่ต้องหลง-ไม่ต้องลืม

เป็นอย่างนั้น

เมื่อไม่ต้องหลง-ไม่ต้องลืม ก็เป็นปกติ

จิตใจก็สบาย คือว่าง ๆ

แต่ไม่ใช่ว่าง-ไม่มีอะไรนะครับ

คือกิเลสทั้งหลายนั้นแหละ จะไม่เข้ามารบกวนครับ

มันจะเห็นเป็นชิ้น-เป็นอัน เป็นชิ้น-เป็นอัน**

เราเคยพูด-เคยคุยกันเรื่องกิเลส

กิเลสทุกประเภทครับ

จึงว่า**‘ศีลเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างหยาบ

สมาธิเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างกลาง

ปัญญาเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างละเอียด’

มันจะมารวมลงที่จุดนี้ทั้งหมดเลย**

**เมื่อรู้ครบ-จบถ้วนแล้ว เราก็รู้นะครับ

จะให้คนอื่นรู้แทนเราไม่ได้

บัดนี้ใครจะพูดเรื่องอะไร เรารู้

พูดธรรมะให้ฟัง-ก็รู้

สิ่งที่ไม่เป็นธรรมะ พูดแล้วก็รู้

อันนี้มันจะรื้อถอนทั้งหมดเลยครับ

รื้อถอนโดยไม่ต้องนึก-ต้องฝัน*

อันนี้แหละครับ ทุกคนต้องประสบเรื่องนี้ครับ**

*ถ้าหากว่าเรายังไม่ทันรู้-ไม่ทันเห็น-ไม่ทันเป็น

ก็คล้าย ๆ คือ จวนจะตาย

หรือจวนจะหมดลมหายใจนี่ครับ

มันจะเห็น-จะรู้-เข้าใจเรื่องนี้*

จึงว่า อารมณ์นั้นทวนมาตั้งแต่ต้น

ตั้งแต่วัตถุ-ปรมัตถ์-อาการ

โทสะ-โมหะ-โลภะ

เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ

รู้ไปอย่างนี้ ทวนให้มัน…

สมมติเอาครับ เหมือนกับเราเดินทางนี่แหละ

เราเดินทางนี้ ทีแรกเดินไป

เราไม่ได้ตัด-ไม่ได้ถางอะไรมาก

ไม่ได้โค่นหลัก-โค่นตอมาก แต่ว่าถางให้ไปได้

บัดนี้เราทวนไปจนจบ

ทวนไปจบแล้ว ก็ทวนตั้งแต่ปลายลงมา

เรียกว่า‘อนุโลม-ปฏิโลม’อย่างนี้ครับ

บัดนี้ ทางนั้นเป็นหลัก-เป็นตอ

ก็ค่อยตัด-ค่อยเตียนเข้า

ปัด-กวาดเข้าให้มันละเอียด

มันสมมติพูดน่ะ

ให้รู้อารมณ์ละเอียดเข้าเป็นพรรค-เป็นพวก

เป็นหมวด-เป็นหมู่ เรียกว่า‘ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๔

ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ ขันธ์เดียว’อย่างนี้

**ให้มันรู้จริง ๆ ครับ

รู้อันนี้ วิปลาสก็หายไป

จินตญาณก็หายไป วิปัสสนูก็หายไป

มีแต่ปัญญาล้วน ๆ ครับ

มีแต่ญาณของปัญญาเข้าไปรู้

เรียกว่า‘ปัญญาญาณ ญาณเข้าไปรู้’**

อันนี้แหละครับ ที่ผมได้แนะนำ

พร่ำสอนมาหลายคนครับ

มีคนรู้มาถึงจุดนี้น้อยคน

แต่รู้เรื่องรูป-นามนั้นมาก สอนกัน-ก็รู้มาก

แต่รู้เรื่องจิตใจเปลี่ยน

ให้ทำตัวเป็นอริยบุคคลนี้-เป็นพระ นั่นก็มีมาก

บางคนก็จิตใจเปลี่ยนครั้งเดียว

บางคนก็ ๒ ครั้ง-๓ ครั้งไป เป็นอย่างนั้น

แต่ความรู้-มันรู้ครับ พูดให้ฟังแล้ว-รู้ครับอันนี้

แต่มันยังไม่ชัดเจนครับ

ผมพูดความจริง จะว่าหาว่าผมพูดอวด

หรือว่าหาว่าคุย-พูดมากก็ได้

เพราะ**เรื่องของคน มันต้องเป็นอย่างนั้นครับ รู้ได้ครับ**

ไม่มีใครพูดให้ฟังครับ เรื่องเหล่านี้-ผมรู้

จึงว่า‘พุทธานุพุทธัง’ หรือจะว่า‘สาวกพุทธะ’ก็ได้

จะว่าอย่างไรก็ได้ครับ ห้ามไม่ได้ครับ…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *