รู้สึกกาย รู้สึกใจ 30 มีนาคม 2023

“…วันนี้มีเวลาพอสมควร หลวงพ่อก็เลยได้มาพูด

นอน-ตื่น…ให้รู้จัก อย่างนั้นก็ต้องตี ๔ หรือตี ๓-ตี ๒

นอนตื่นเดียวก็พอแล้ว เราเป็นนักปฏิบัติ

พอดีนอนตื่นขึ้น ก็พยายามลุกเลย-สร้างจังหวะ

ถ้านั่งอยู่-มันอยากนอนอีก ก็ลุกมาเดินเลย…หลวงพ่อทำอย่างนั้น

นิสัยหรือวิธีการที่หลวงพ่อทำ คือไม่ลงไปนอนใหม่อีก

ถ้าลงไปนอนอีก…มันหยาบ-มันเคยตัว มันเป็นนิสัย-มันเป็นสันดาน

เพราะคนมันชอบนิสัยขี้เกียจอยู่แล้ว สันดานขี้เกียจอยู่แล้ว

‘นอนน้อย-พูดน้อย-กินน้อย’ ท่านว่า

กินก็ลด ไม่ใช่ว่าจะกินอะไรตามใจ-ชอบอะไรก็กินไป

ไม่ใช่อย่างนั้น มันผิด-ผิดเพราะอะไร ?

เพราะมันได้ใจของความชั่ว-มันได้ใจของกิเลส ท่านเรียกว่า‘กิเลส’-อันนั้นน่ะ

กินมาก-นอนมาก-คุยมาก ท่านเรียกว่า‘กิเลส’

ท่านจึงสอนว่า‘ให้กินน้อย-นอนน้อย-พูดน้อย ให้รู้จักเป็นเวลา’

รู้จักกาล-รู้จักเวลาโน่นนะ ที่ว่ารู้จักนี่-ไม่ใช่ว่าจะรู้จักเฉย ๆ นะ

**รู้จักนี่-ต้องให้รู้จักจริง ๆ รู้ธรรมะ**

หลวงพ่อจึงว่า‘ไม่เคยจะไปถามคนนั้น-คนนี้’ เพราะหลวงพ่อรู้จริง ๆ

**รู้จริงแล้วก็เรียกว่า‘รู้แจ้ง รู้จริง-รู้แจ้ง’

รู้จริง-รู้แจ้ง รู้วิธีอันนี้…ไม่ใช่รู้อื่นไกล-รู้ตัวเรา

ตัวเรามันมีอันใด-ก็รู้จัก มันหมดอันใด-รู้จัก

‘ความหมดนั้น’ ก็หมายถึงไม่มี-มันลุล่วงไปทั้งหมด

ลุล่วงไป ท่านเรียกว่า‘วิปัสสนาเกิดขึ้น’**

ญาณวิปัสสนา…‘ญาณ ๑๖ ก็มี-ญาณ ๙ ก็มี-ญาณ ๑๘ ก็มี’

ท่านว่าไปอย่างนั้น อันนั้นก็ถูก

**ญาณวิปัสสนาจริง ๆ นั้น

๑. รู้รูป-นาม

๒. รู้ความคิด รู้ความคิดนี้แล้วก็เลยเลิกละเรื่องโลภะ-โทสะ-โมหะนี้ได้

แล้วต่อไปก็มีญาณเกิดขึ้น แล้วก็เลิกละความยึดมั่น-ถือมั่นนี้ได้

ต่อไป ญาณเกิดขึ้นก็รู้จักว่าศีลอยู่ไหน อันใดเป็นศีล

ต่อไปก็รู้จักเรื่องทำบาป-ทำกรรม นรก-สวรรค์-นิพพาน…ว่ามีจริง

เมื่อรู้จักอย่างนี้-ก็พร้อมตัวกันเลย ขันธ์ ๕ นี้รวมตัวกันเข้าทั้งหมด

รูปก็รวม-เวทนาก็รวม-สัญญาก็รวม-สังขารก็รวม-วิญญาณก็รวม

รวมตัวกันเข้า แล้วก็หมดกันที่นี้-เรียกว่า‘อาการเกิดดับเกิดขึ้นที่นี้’

ถ้าอันนี้ยังไม่ปรากฏละก็ ยังไม่รู้แท้ ๆ**

แต่รู้ ก่อนหน้านั้น-สิ่งเหล่านั้นก็รู้…รู้ความสงบ รู้ทำดี-ทำชั่ว

รู้ แต่ยังไม่รู้ว่าที่สุดของทุกข์อยู่ไหน

**เมื่อหลวงพ่อมาเป็นอย่างนี้แล้ว หลวงพ่อก็รู้จักว่าที่สุดของทุกข์

ก่อนที่จะรู้นั้น คือมันพร้อมตัวกันเข้า

รู้สึกเลยว่า ขันธ์ ๕ รวมตัวกันเข้าทั้งหมด

เลยรู้จักว่า พระพุทธเจ้าตัดผมครั้งเดียวนั้นก็อันนี้**

ไม่ใช่ว่าจะไปตัดผมที่อยู่บนหัวนั้นนะ ไม่ใช่

**‘ตัดผมครั้งเดียว’ ก็หมายถึงสิ่งที่มันเป็นกฎของธรรมชาติ-มันเข้าสู่สภาพเดิม

รูปนี้ก็เข้าสู่สภาพ จิตใจก็เข้าสู่สภาพเดิมของมัน

อืม-อันนี้แหละ…มันไม่ยาว-มันไม่สั้น มันปรากฏเกิดขึ้นมา

ท่านจึงกล่าวว่า‘พระพุทธเจ้าตัดผมครั้งเดียว’**

แต่เราไปเข้าใจว่าตัดผมจริง ๆ นู่น…ไม่ใช่

**มันรู้จัก มันจืด-มันถอน

ท่านจึงว่า‘เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์-เป็นสิ่งที่เคารพนับถือ

เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน-ของเหล่านี้’ จึงว่าคาดคิดไม่ได้

เรื่องธรรมะ มันต้องปฏิบัติให้มันเป็น**

*เมื่อมันยังไม่เป็นแล้ว-อย่าเข้าใจว่าตัวเองรู้…ไม่ใช่

รู้เฉย ๆ อันนั้นนะ

รู้เฉย ๆ ก็เป็นการคาดคิดเอาละซี้ คิดว่ามันเป็นอย่างนั้น-อย่างนี้*

มันต้องคิดอย่างนั้น มันถูกอันนั้นน่ะ-ถูกแบบของเขา

เราอย่าไปตำหนิเขา

แต่**เรารู้วิธีใด-เราต้องเอาวิธีนั้นมาสอน

ที่หลวงพ่อพูดนี้ พูดด้วยความจริงใจ

ให้เราทุกคนเอาไปใช้ได้ ใช้ได้จริง ๆ ในชีวิตนี้ล่ะ

ไม่ใช่ว่าตายแล้ว-จึงจะเอา ไม่ใช่**…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *