“…**คล้าย ๆ กับเราเอาผลไม้
หรือเมล็ดพืชต่าง ๆ ไปเพาะลงในดิน
เอาไปเพาะ-ไปปลูกมื้อนั้น-วันนั้นแล้ว
จะให้มันเกิดมื้อนั้น-วันนั้นเลยไม่ได้
มันค่อยแทรกซึมความเย็น-ความร้อน
เรียกว่าดินกับเมล็ดผลไม้กับความอบอุ่น
มันประสานเข้าหากัน-ซึมเข้ากัน
แล้วมันแตกหน่อ-แตกต้นออกมาเป็นเบี้ย-เป็นหน่อ
หรือว่าเป็นต้น-เป็นลำ ทำดอก-ออกผลให้เราได้กินแน่ ๆ
การเจริญสติแบบนี้ก็เหมือนกัน
รับรอง ๑๐๐ ทั้ง ๑๐๐ ทีเดียว จะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน**
คือ อย่างที่พ่อแม่ท่านกล่าวกันมาว่า
‘ยอมเสียสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะทุกส่วน’
แต่เมื่อเป็นโรคขึ้นมา หมอเขาบอกว่า‘ต้องตัดอวัยวะทิ้ง’
เราก็ยอมเสียสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต ชีวิตนี้ขอไว้ก่อน
เอ้า! ทีนี้ถ้ามีใครมาว่า‘ที่สอนนี้-มันผิด’
(หลวงพ่อ)ก็ว่า‘ยอมเสียสละชีวิต
เพื่อรักษาความจริง คือสัจธรรมนั่นเอง’
จึงกล่าวว่า‘ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน’
จึงว่า**‘ธรรมะนั้นคือคนทุกคน อยู่กับคนทุกคน’
สุดแล้วแต่ว่า บุคคลนั้นจะทำให้มันปรากฏขึ้นมาหรือไม่**
*ถ้าคน ๆ นั้นไม่ทำให้ปรากฏขึ้นมา ไม่ทำวิธีนั้นให้เกิดขึ้นมา
สิ่งนั้นก็จะไม่ปรากฏ*
เมื่อทำสิ่งนั้นแล้ว-จะเป็นอะไร ? ถามอย่างนี้
ตอบก็ว่า ‘จะเป็นอะไรก็ตามเถิด
**ต้องเป็นอย่างนี้จริง ๆ เรื่องนี้’
แล้วก็ต้องเห็นพระพุทธเจ้าจริง ๆ
สภาพสภาวะดั้งเดิมของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร
เราจะได้รู้-เราจะได้เห็น**
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า ‘สัตว์ทั้งหลายเป็นตถาคต’
สัตว์ในที่นี้ ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานนะ
‘สัตว์มนุษย์นี่ต่างหากเป็นตถาคต เป็นพระพุทธองค์’
แต่คำกล่าวเช่นนี้ คนทั่วไปฟังแล้วไม่เข้าใจ
ในที่นี้ท่านจึงกล่าวว่า
*‘สัตว์ทั้งหลายเหมือนกับเราตถาคต’ เหมือนกัน
‘เราตถาคต เมื่อยังไม่รู้-เมื่อยังไม่เห็น
ยังไม่เข้าใจ-ไม่ได้ซาบซึ้งกับสิ่งนี้
ก็ยังเป็นทุกข์ มืดบอด-ไม่รู้จักทาง*
**เมื่อเราตถาคตไปรู้-ไปเห็น หรือไปถึงแล้ว
ซึ่งสภาพ หรือสภาวะบ้านอันนั้น-เมืองอันนั้นแล้ว
ก็นำมาบอก-มาสอนพวกเธอทั้งหลาย
จงทำอย่างเราตถาคตนี้
ประพฤติปฏิบัติตามอย่างเราตถาคตนี้
เมื่อทำอย่างเราตถาคตแล้ว
ประพฤติ-ปฏิบัติอย่างเราตถาคตแล้ว
จะรู้-จะเห็น-จะเข้าใจอย่างเราตถาคตนี้
จะไม่มีทุกข์อย่างเราตถาคตนี่แหละ’** ว่างั้น
ดังนั้น *ความทุกข์-ความเซ็ง-ความเศร้าหมอง
หรือว่าความเดือดร้อน-สับสนวุ่นวายเกิดขึ้น
เพราะเราไม่ได้ปฏิบัติตามแบบของพระพุทธองค์*
การที่เราให้ทาน รักษาศีล
หรือทำกรรมฐาน เจริญวิปัสสนาบทใด-บทหนึ่งก็ตาม
มันเพียงแต่ว่าเราพูดเอาเองซือ ๆ (เฉย ๆ)
แม้เราจะว่าไปอย่างไรก็ตาม ก็ว่าได้
แต่ว่ามันยังไม่ถูกตามแบบของพระพุทธเจ้า
แล้วผลของมันจะเป็นอย่างของพระพุทธเจ้าทำ
มันจะได้หรือ ?
**เมื่อเราปฏิบัติ
เราทำไปถูกตามแบบของพระพุทธเจ้าแล้ว
ญาณสิ่งนั้นก็ปรากฏขึ้นมาให้เรารับผลจริง ๆ
อย่างนี้แหละจึงได้ชื่อว่า
‘เราได้ทำตามแบบของพระพุทธเจ้าแล้ว
พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน เราจะไปเห็นจริง ๆ’
ท่านว่า‘ลักษณะเดี๋ยวนี้นี่แหละ’**!…”
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
————————————————————————————————
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※
※ ※
※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※
※ ※
※ อย่าหลงชีวิต ※
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ
_/|\_ _/|\_ _/|\_

ใส่ความเห็น