รู้สึกกาย รู้สึกใจ 3 กุมภาพันธ์ 2023

“การพูด-การสอนนี้ จึงว่า

**‘ทำของง่าย ๆ นี้-ให้มันง่ายเข้าไป ทำของที่มันยุ่งยากนี้-ให้มันง่ายเข้าไป

ทำของมืด ให้มันเห็นแจ้งเข้าไป’**

เราก็เลยรู้จักศาสนา รู้จักพุทธศาสนา

‘ศาสนา’ จึงแปลว่าคำสั่ง-คำสอนของท่านผู้รู้

ใครรู้เรื่องอันใด ก็นำมาสอนเข้าหูเรานี้

รู้เรื่องผี ก็สอนให้เราไหว้ผี

รู้เรื่องดูฤกษ์-ดูยาม-ดูหมอเข้าทรง เขาก็สอนให้เราไปทำอย่างนั้น-เขาสอนเรา

*เราไม่มีปัญญา-เราไม่เห็นของจริง เราไม่รู้แจ้ง-เราไม่รู้จริง

เราก็เชื่อไปตามสิ่งเหล่านั้น เพราะเราไม่เห็นธรรม-ไม่รู้ธรรม*

**เมื่อเราเห็นธรรม-รู้ธรรมแล้ว จะไปเชื่อมันทำไม ?**

*ฤกษ์งาม-ยามดีช่วยเราไม่ได้ ผีช่วยเราไม่ได้-เทวดาช่วยเราไม่ได้*

**ช่วยเราได้ก็แต่เฉพาะการกระทำของเราเองเท่านั้น**

ครั้งหนึ่งจะเล่าความจริงให้ฟัง

ไปเปิดอบรมวิปัสสนาอยู่ที่วัดวิเวกธรรมคุณ

วัดนั้นเป็นป่าช้า บ้านผมเรียกว่า‘ป่าเฮ้ว…ป่าช้า-ป่าผีหลอก’

คนที่เข้าไป-มันกลัว มืดค่ำแล้ว…ไปไม่ได้-กลัวผี เป็นอย่างนั้น

คราวที่ไปเปิดอบรมอยู่ที่นั้น ไปเห็นคนเขาเอาศพไปเผา

มันไหม้ไม่หมด เขาเลยขุดหลุมเอาเศษที่เหลือนั้นไปฝังดิน

ฝังแล้ว เขาก็กลับไปกันหมด

หมามันก็ไปโกย-ไปขุด-ไปคุ้ยขึ้นมา มันไม่กลัว

ส่วนเด็กน้อยตาย เขาไม่เผา-เขาเอาไปฝังเลย

แต่ฝังไม่ลึก หมามันก็ไปขุดคุ้ยขึ้นมากิน-มันไปฉีกกัดกิน

แน่ะ-หมามันไม่เคยกลัวผี แต่คนทำไมจึงกลัวผี

จิตใจใครจะสูงกว่ากัน ใครต่ำกว่ากัน !?

ถ้าคนใดกลัวผี จงสำนึกเลยว่าจิตใจของเรายังต่ำ

ยังไม่ได้เป็นมนุษย์ ยังไม่ได้เป็นมนุสภูโต

จิตใจของเรายังไม่ได้เป็นมนุสเทโว ยังไม่ได้เป็นมนุษย์สมบูรณ์

จิตใจมันยังต่ำ ขึ้น ๆ ลง ๆ เขาเรียกว่า‘คน’

คนนั้นเขาว่า‘ดีบ้าง-ชั่วบ้าง’ เขาเรียกว่า‘คน’

เมื่อมาพิจารณาดูแล้ว จิตใจเช่นนี้มันเลวร้ายกว่าสุนัข

สุนัขมันไม่เคยกลัวนะ คนทำไมจึงจะไปกลัวผี

ผีมันดีไหม ?

ผีมันปลูกเรือนอยู่เป็นไหม ทำอาหารกินเป็นไหม

มันทำเป็นไม่ได้ มันกินเป็นไม่ได้

เทวดาดีไหม ?

ไม่เคยเห็นเทวดาปลูกบ้านอยู่ คนมันไม่เข้าใจ

*ที่คนไม่เข้าใจเพราะมันไม่มีหูทิพย์ เพราะมันไม่มีตาทิพย์

เพราะมันไม่ได้ฟังคำพูด-คำสอนของพระ*

**‘พระ’ จึงแปลว่าผู้สอนคน-สอนจริง ๆ**

ไม่ใช่พระอย่างที่หลวงพ่อนี่นะ(นักบวช) ไม่ใช่พระอย่างนี้

พระอย่างนี้เรียกว่า‘สมมติสงฆ์’

‘เป็นพระโดยสมมติ-จริงโดยสมมติ’ เขาว่าอย่างนั้น

เมื่อมีตาทิพย์-หูทิพย์ เห็นเลย

เห็นผี-พูดกับผีได้ เห็นเทวดา-พูดกับเทวดาได้

อาตมาเห็นผี-เห็นเทวดาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นโยม

ก่อนหน้าที่จะบวช ก็มาเล่าเรื่องผี-มาเล่าเรื่องเทวดาให้คนฟัง

บางคนก็ฟังเป็น บางคนก็ฟังไม่เป็น

เมื่อมาบวชแล้ว ก็มาพูดเรื่องตาทิพย์-หูทิพย์นี่แหละ

เรานั้นเพียงแต่พูดว่า‘เขาว่า-เขาว่า’ แต่เราไม่รู้จักความหมาย

อย่างคนทำชั่ว-พูดชั่วนี่

ผู้ชาย เขาว่า‘ไอ้ผี-เหมือนผี’…แน่ะมันเหมือนตัวผี-แต่ไม่เคยเห็นผี

ถ้าเป็นผู้หญิงทำชั่ว-พูดชั่ว-คิดชั่ว เขาว่า‘นางนี้เหมือนผี-นางนี้ผี-อีผี’

แน่ะ-เคยพูดกันอย่างนั้น

บัดนี้พระสงฆ์องค์เจ้าทำชั่ว-พูดชั่ว-คิดชั่ว

เขาว่า‘พระองค์นี้เหมือนผี-เณรองค์นี้เหมือนผี พระผี-เณรผี’ แน่ะ!

เราไม่มีตาทิพย์-ไม่มีหูทิพย์ เราจึงไม่เห็น-เราจึงไม่เข้าใจ

*ตัวจิตใจโน้น-มันเป็นผี มันสั่งให้รูปอันนี้ทำ

มันสั่งให้คำพูดนี้พูดออกมา ใจมันเป็นผี

ส่วนหน้าตา มือ-เท้า…เป็นคน*

**อันนี้แหละจึงให้ศึกษาตัวเรา-ให้ปฏิบัติตัวเรา ให้รู้จักตัวเรา**

ทำดี-พูดดี-คิดดี…บาดเนี่ยะ โอ๊นางนี้ถ้าเป็นผู้หญิง

หรือถ้าเป็นผู้ชาย-เป็นหนุ่ม

ก็ว่า‘ท้าวนี้งามเหมือนเทวดา-ใจดีเหมือนพระธรรม’ แน่ะ

ถ้าเป็นพ่อบ้าน-แม่เรือน

ก็ว่า‘โอ๊ะ…ลุงนี้-ป้านี้ดีเหมือนเทวดา พูดดี-คิดดีเหมือนพระธรรม’ แน่ะ

ถ้าเป็นคนเฒ่า-คนแก่ โอ๊ะ-คุณตา-คุณยาย พ่อเฒ่า-พ่อลุงเหมือนเทวดา

ใจดีเหมือนพระธรรม แน่ะ

*เราไม่เห็นธรรม-ไม่เห็นพระธรรม มันจึงพูดกับพระธรรมไม่ได้*

ดังนั้น**เราต้องมีตาทิพย์

ตาทิพย์ต้องมองดูสภาพความเคลื่อนไหวของจิตใจโน้น เราจะเห็น**

นี่แหละ จึงว่า‘พระแปลว่าผู้สอนคน’ ใครสอนก็ได้เรื่องนี้

ไม่ใช่กำหนดเอาแต่เฉพาะว่าต้องผ้าเหลือง โกนผมเท่านั้น…”

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

————————————————————————————————

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

※ อย่าหลงตน-อย่าลืมตัว ※

※ ※

※ อย่าหลงกาย-อย่าลืมใจ ※

※ ※

※ อย่าหลงชีวิต ※

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

รู้สึกตัว…รู้สึกกาย รู้สึกใจ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *